แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (22 ก.ย.) ที่ประชุมเร่งรัดการดำเนินการดำเนินงานโครงการประกันราคาพืชผลทางการเกษตร นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้เสร็จในวันที่ 31 ต.ค.นี้
นายกอร์ปศักดิ์ ยอมรับว่ามีเกษตรกรที่เข้ามาทำสัญญาในโครงการประกันรายได้ กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) น้อยมากและยังหารือถึงแหล่งที่มาของงบประมาณ ที่คาดว่ารัฐจะใช้ชดเชยส่วนต่างสินค้าเกษตร 3 ประเภท ได้แก่ ข้าวโพดที่คาดว่าจะต้องชดเชย 7 พันล้านบาท มันสำปะหลังกว่า 1 หมื่นล้านบาท และข้าว 2.5-2.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะใช้งบจากโครงการไทยเข้มแข็ง
แหล่งข่าวระบุว่า คณะกรรมการประสานการดำเนินงาน โครงการประกันราคาพืชผลทางการเกษตร ที่มีนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นประธาน ซึ่งนายอำพน ได้ชี้แจงโครงการมีปัญหาหลายจุด โดยเฉพาะการขึ้นทะเบียน แต่นายกอร์ปศักดิ์ แสดงท่าทีที่ไม่พอใจ โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่ซึ่งนายอำพนส่งลงไปในพื้นที่ รายงานข้อมูลมาผิดหรือไม่ และนายอำพนไม่เคยเข้าร่วมประชุมกับตนเลย จะรู้ปัญหาดีกว่าได้อย่างไร
นายกอร์ปศักดิ์ ยังระบุว่าลงพื้นที่ทุกสัปดาห์ ก็พบว่าปัญหาไม่ได้มีมากอย่างนั้น ทำให้นายอำพน ชี้แจงกลับว่าตนและเจ้าหน้าที่ สศช.ได้ลงพื้นที่และรับฟังปัญหาจากพื้นที่มาและนำมาสะท้อนให้รัฐบาลรับทราบ เพื่อที่รัฐบาลจะได้นำไปปรับปรุงการดำเนินการให้ดีขึ้นเท่านั้น
นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.มีมติมอบหมายให้ ธ.ก.ส.เป็นตัวแทนรัฐบาล ในการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างราคาประกันและราคาอ้างอิง ตามโครงการประกันราคาพืชผลการเกษตร และให้ ธ.ก.ส.ดำเนินโครงการในลักษณะธุรกรรมตามนโยบายพิเศษของรัฐ (PSO) โดยแยกบัญชีงบการเงินออกจากการดำเนินงานตามปกติของ ธ.ก.ส.
พร้อมกันนั้น ครม.เห็นชอบราคาประกันข้าวเปลือก ณ ความชื้นไม่เกิน 15% กำหนดให้ 1.ข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ 15,300 บาท ไม่เกิน 14 ตันต่อครัวเรือน 2.ข้าวเปลือกหอมจังหวัดตันละ 14,300 บาท ไม่เกิน 16 ตันต่อครัวเรือน 3.ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 10,000 บาท ไม่เกิน 25 ตันต่อครัวเรือน 4.ข้าวเปลือกปทุมธานีตันละ 10,000 บาท ไม่เกิน 25 ตันต่อครัวเรือน และ 5.ข้าวเปลือกเหนียวตันละ 9,500 บาท ไม่เกิน 16 ตันต่อครัวเรือน
นายวัชระ กล่าวว่า ครม.ยังอนุมัติการระบายข้าวโพดจำหน่ายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้กับผู้ที่เสนอราคาสูงสุดและผ่านเกณฑ์ราคา 2 ราย ปริมาณ 7,516.74 ตัน มูลค่า 35.16 ล้านบาท
นอกจากนี้ ครม.ยังอนุมัติให้ระบายผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง โดยอนุมัติระบายมันสำปะหลังเส้นเพื่อการส่งออก 3 ราย ปริมาณ 104,093 ตัน มูลค่า 424 ล้านบาท ใช้ในประเทศ 1 ราย ปริมาณ 4,069 ตัน มูลค่า 16 ล้านบาท ส่วนแป้งมันสำปะหลังเพื่อการส่งออก 3 ราย ปริมาณ 33,742 ตัน มูลค่า 268 ล้านบาทและใช้ในประเทศ 1 ราย ปริมาณ 7,559 ตัน มูลค่า 61 ล้านบาท
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ |