www.thairiceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

สถานการณ์ข้าวผันผวนหนัก ผู้ส่งออกเสี่ยงงดรับออร์เดอร์


นายวิจักร วิเศษน้อย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เปิดเผยถึงแนวโน้มการส่งออกข้าวในปี 2553 ว่า จะส่งออกได้ ไม่ต่ำกว่า 9-10 ล้านตัน เพราะมีแนวโน้ม ที่จะเกิดวิกฤตการณ์ทางด้านสินค้าอาหารเหมือนปี 2551 อีกครั้ง แต่สถานการณ์จะไม่รุนแรงมากเท่าเดิม สินค้าข้าวมีความเป็นไปได้ที่ราคาจะแพงขึ้น เพราะประเทศ ผู้ผลิตข้าวมีปัญหาด้านผลผลิตเสียหาย เช่น อินเดีย ผลผลิตข้าวในประเทศเสียหาย 15-16 ล้านตัน จนต้องเปลี่ยนสถานะจาก ผู้ส่งออกข้าวเป็นผู้นำเข้าข้าว อียิปต์ลดพื้นที่ปลูกข้าวเพราะน้ำใต้ดินมีปัญหา ออสเตรเลียที่เคยส่งออกข้าวได้หันกลับมานำเข้า ขณะที่ประเทศผู้นำเข้าต่างมีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มปริมาณสต๊อกในประเทศ ป้องกันภาวะการขาดแคลนอาหาร ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เจอมรสุม แผ่นดินไหว มีความต้องการซื้อข้าวมากขึ้น

ส่วนแนวทางในการระบายสต๊อกข้าว 4-5 ล้านตัน ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล ทางกรมการค้าต่างประเทศจะเน้นการบริหารจัดการอย่างระมัดระวัง แต่จะไม่มีการกอดสต๊อกไว้อย่างแน่นอน ทั้งนี้การระบายข้าวจะต้องดูแลไม่ให้กระทบราคาภายในประเทศ

กรมจัดทำแผนการขายข้าวในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) โดยมีตลาด เป้าหมายที่จะขายให้กับ 8-9 ประเทศ เช่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย บรูไน จีน อินเดีย มาดากัสการ์ และอิหร่าน ปริมาณรวม 1.77 ล้านตัน โดยคาดว่าในช่วงต้นฤดู 2-3 เดือนนับจากนี้จะสามารถเจรจาได้อย่างต่ำ 9.5 แสนตัน ซึ่งอยู่ระหว่างการหาข้อสรุปเรื่องราคา ซึ่งจะทำให้การส่งออกข้าวทั้งปี 2552 ใกล้เคียงกับเป้าหมาย 9 ล้านตัน จากตัวเลขส่งออก 11 เดือนแรก (ม.ค.-13 พ.ย.) อยู่ที่ 7.50 ล้านตัน มีมูลค่า 4,325 ล้านเหรียญสหรัฐ เพราะราคาข้าว ปีนี้มีมูลค่าต่ำกว่าปี 2551

"สัปดาห์ก่อนได้คุยกับเบอร์นาร์ด ผู้ซื้อจากมาเลเซีย ต้องการซื้อข้าวไทย แต่ต้องเจรจาด้านราคากันก่อน ฟิลิปปินส์ก็อยู่ระหว่างการจัดทำความตกลงซื้อข้าว (MOA) ผ่านสภาแล้ว น่าจะเสร็จทัน 1 ธ.ค.นี้ เท่าที่ติดตามสถานการณ์ภาพรวมทิศทางปีหน้า ตลาดข้าวจะเป็นของผู้ขายอีกครั้ง ข้าวจะแพงขึ้น แต่คงไม่รุนแรงเหมือนปีที่แล้ว" นายวิจักรกล่าว

ทางด้านนายสมพงษ์ กิตติเรียงลาภ ประธาน บริษัท พงษ์ลาภ จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ข้าวมีความผันผวนสูงมาก ทำให้บริษัทจะไม่รับออร์เดอร์ ล่วงหน้าไว้นานกว่า 2-3 เดือน เกรงว่าจะ ซ้ำรอยปี 2551 ที่รับออร์เดอร์ราคาหนึ่ง แล้วราคาข้าวในตลาดปรับตัวสูงขึ้นจน ไม่สามารถหาข้าวได้ เพราะมีบางคนคาดการณ์ว่าข้าวจะขึ้นไปถึงตันละ 4,000 บาท หรืออาจจะปรับขึ้นตันละ 200 เหรียญสหรัฐ จาก 500 เป็น 700 เหรียญสหรัฐ ซึ่งก็ยัง ไม่สูงเท่าปี 2551 ที่เคยปรับขึ้นราคาเป็น 1,000 เหรียญสหรัฐ

ทิศทางการส่งออกข้าวปี 2553 บริษัทพงษ์ลาภเน้นตลาดส่งออกเป็นหลัก แต่ก็ต้องติดตามปัจจัยเสี่ยง ยังมีปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน โดยเฉพาะการแข่งขันกับประเทศคู่แข่งจะรุนแรงขึ้น เพราะการทำเขตการค้าเสรี (อาฟต้า) ทำให้ข้าวไหลเวียนในอาเซียน ซึ่งทางเวียดนามก็คงมีการนำเข้าข้าวจากกัมพูชา ลาว พม่า เข้าไปในประเทศและทำตลาดแข่งกับไทยแน่ ในส่วนของผู้ส่งออกก็ทั้งกลุ่มที่อาจจะนำเข้าวัตถุดิบมาส่งออก ส่วนแผนการทำตลาดในประเทศจะชะลอไปก่อน เพราะราคาข้าว ในประเทศปรับสูงขึ้น มีการแข่งขันกัน อย่างมาก

"ปีหน้ายักษ์ใหญ่ จีน อินเดีย อินโดฯขาดข้าว ก็สะเทือนถึงไทย แต่การแข่งขันก็แรงแน่ เพราะเวียดนามคงเก็บหมด ทั้งกัมพูชา ลาว และพม่า แต่เชื่อว่าผู้ส่งออกไทยยังปรับตัวได้ อาจจะมีการนำเข้าบ้าง แต่ในส่วนของบริษัทคงจะใช้ข้าวไทยเป็นวัตถุดิบในการส่งออก" นายสมพงษ์กล่าว

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@thairiceexporters.or.th


Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.