www.thairiceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

หอมมะลิไทยผลผลิตลดลง!


คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.)และคณะอนุกรรมการกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง และคณะอนุกรรมการฯข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ได้ประกาศเกณฑ์กลางอ้างอิงประจำวันที่ 16 พฤศจิกายน 2552  เพื่อใช้ในการจ่ายเงินชดเชยระหว่างวันที่ 16-30 พฤศจิกายน 2552 ดังนี้

ข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ 13,002 บาท อัตราชดเชยตันละ 2,298 บาท ข้าวเปลือกหอมจังหวัดตันละ 12,620 บาท อัตราชดเชยตันละ 1,680 บาท ข้าวเปลือกปทุมธานีตันละ 10,501 บาท ไม่มีส่วนต่างที่ต้องชดเชย ข้าวเปลือกเหนียวตันละ 8,473 บาท อัตราชดเชยตันละ 1,027 บาท ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 8,914 บาท อัตราชดเชยตันละ 1,086 บาท มันสำปะหลังปีการผลิต 2552/53 เชื้อแป้ง 25% กก.ละ1.58 บาท อัตราชดเชยกก.ละ 0.12 บาท ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ความชื้น 14.5%กก.ละ 5.86 บาท อัตราชดเชยกก.ละ 1.24 บาท

 สำหรับราคาข้าวที่อคส.และอ.ต.ก.ตั้งโต๊ะรับซื้อ ณ จุดรับซื้อของรัฐบาลที่มีธงสีฟ้า ข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ 13,002 บาท ข้าวเปลือกหอมจังหวัดตันละ 12,620 บาท ข้าวเปลือกปทุมธานี ตันละ 10,501 บาท ข้าวเปลือกเหนียวตันละ 8,473 บาท เปลือกเจ้าตันละ 8,914 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 10% ตันละ 8,714 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 25% ตันละ 8,314 บาท

 แหล่งข่าวในกขช.อธิบายว่าราคาอ้างอิงข้าวเปลือกหอมมะลิงวดวันที่ 16-30 พฤศจิกายน 2552 จะต่ำกว่างวดวันที่ 1-15 พฤศจิกายน ถึงตันละ 1,838 บาท ไม่ได้หมายความว่าราคาข้าวหอมมะลิตกต่ำลง แต่เป็นเพราะงวดวันที่ 1-15 พฤศจิกายน ใช้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิเก่ามาเป็นเกณฑ์ในการคำนวณจึงทำให้ราคาข้าวหอมมะลิค่อนข้างสูง เนื่องจากข้าวหอมมะลิเก่าราคาสูง แต่งวดวันที่ 16-30 พฤศจิกายน ใช้ราคาข้าวหอมมะลิใหม่ซึ่งเริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้นแล้วมาเป็นเกณฑ์คำนวณ โดยข้าวหอมมะลิใหม่ปกติราคาจะต่ำกว่าข้าวหอมมะลิเก่า เช่นเดียวกับราคาตั้งโต๊ะรับซื้องวดวันที่ 16-30 พฤศจิกายน เป็นราคารับซื้อข้าวหอมมะลิฤดูใหม่

 แหล่งข่าวในวงการโรงสีข้าว กล่าวยืนยันว่าสำหรับราคาข้าวหอมมะลิปีนี้ไม่ตกต่ำอย่างแน่นอน เพราะปีนี้โดยภาพรวมผลผลิตข้าวหอมมะลิ หากสำรวจด้วยตาเปล่าดูเหมือนว่าผลผลิตจะดี แต่หากชาวนาเก็บเกี่ยวขายให้กับโรงสีแล้วนำมาสีแปรเป็นข้าวสารคุณภาพข้าวจะไม่ค่อยดี มีข้าวหักมากได้ต้นข้าวน้อย จึงทำให้ผลผลิตรวมข้าวสารหอมมะลิปีนี้น่าจะลดลง ส่งผลให้ราคาสูงขึ้น ประกอบกับชาวนาเองไม่ค่อยปล่อยข้าวเปลือกออกมาจะทยอยขายเมื่อมีความต้องการใช้เงินเท่านั้น จึงทำให้ข้าวเปลือกหอมมะลิไม่ทะลักออกสู่ตลาด

 "ที่สำคัญปีนี้ค่อนข้างแปลกเพราะมีผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่หลายรายที่มีโรงสีด้วย ไม่ว่าจะเป็นบริษัท ซีพีอินเตอร์เทรด จำกัด   บริษัท เจียเม้ง จำกัด ได้ออกไปกว้านซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิเก็บไว้ในโกดังกันจำนวนมาก ปกติถ้าสถานการณ์ผลผลิตข้าวหอมมะลิลดลง ผู้ส่งออกจะซื้อข้าวสารหอมมะลิเก็บสต๊อก แต่ปีนี้กลับเก็บสต๊อกข้าวเปลือกแทนข้าวสาร อย่างไรก็ดีผู้ส่งออกที่มีการซื้อข้าวสารปริมาณมากและให้ราคาดีในช่วงนี้ก็มีบริษัท สยามเกรนส์ฯ บริษัท ยูนิเกรนส์ฯ เป็นต้น" แหล่งข่าวกล่าวและว่า

 ปีนี้ไม่เพียงผลผลิตข้าวหลายประเทศเช่นอินเดีย ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม จะลดลงเพราะประสบภัยธรรมชาติเท่านั้น ผลผลิตข้าวของไทยที่ดูเหมือนว่าจะได้ผลผลิตดี สุดท้ายแล้วผลผลิตข้าวนาปีที่เริ่มเก็บเกี่ยวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนมกราคมปีหน้าอาจจะไม่ถึง 23 ล้านตัน (ประมาณการผลผลิตข้าวนาปีปีการผลิต 2552/53 ประมาณ 23 ล้านตัน แยกเป็นข้าวเปลือกเจ้า 17 ล้านตัน ข้าวเปลือกหอมมะลิ 6-6.5 ล้านตัน) เพราะข้าวเปลือกเจ้าส่วนหนึ่งประสบปัญหาโรคเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลและข้าวหอมมะลิเจอภาวะอากาศแปรปรวน

 อย่างไรก็ดีระหว่างวัที่ 19-21 พฤศจิกายน ศกนี้ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย จะเดินทางสำรวจผลผลิตข้าวพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อนำมาวางแผนการค้าคาดว่าหลังจากสำรวจแล้วจะได้ข้อมูลผลผลิตข้าวไทยที่ชัดเจน

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@thairiceexporters.or.th


Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.