นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อุทัยโปรดิวส์ จำกัด ผู้ส่งออกข้าวหอมมะลิรายใหญ่รายหนึ่ง เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงสถานการณ์ส่งออกข้าวหอมของไทยว่า แนวโน้มมีปัญหาสูงและรัฐบาลต้องหามาตรการแก้ไขอย่างเร่งด่วน กล่าวคือก่อนหน้านี้จีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าข้าวหอมมะลิ 105 จากไทยรายใหญ่รายหนึ่ง ได้พัฒนาพันธุ์ข้าวหอมมะลิขึ้นมา มีคุณสมบัติใกล้เคียงหอมมะลิของไทยมาก จนส่งผลให้จีนนำเข้าข้าวหอมมะลิ 105 จากไทยลดลงไป เพราะข้าวหอมมะลิจีนราคาถูก
นอกจากนี้ ขณะนี้ข้าวพันธุ์หอมปทุมธานี 1 กำลังจะตกอยู่ในฐานะลำบากเช่นเดียวกัน เพราะเวลานี้ประเทศเวียดนาม ได้พัฒนาพันธุ์ข้าวที่ชื่อว่าพันธุ์จัสมิน 85 ขึ้นมามีคุณสมบัติคล้ายข้าวหอมปทุมธานี 1 ของไทยมาก โดยเวียดนามได้ใช้เวลาพัฒนามา 3-4 ปีแล้วและได้เริ่มนำออกมาจำหน่ายสู่ตลาดมากขึ้น ซึ่งราคาข้าวจัสมิน 85 ของเวียดนามเสนอขายอยู่ที่ตันละ 580-600 ดอลลาร์สหรัฐฯ ข้าวหอมปทุมธานี 1ของไทยตันละ 750 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่หลังจากที่ข้าวหอมปทุมธานี 1 ของไทยขยับขึ้นมาอยู่ที่ตันละ 770 ดอลลาร์สหรัฐฯ เวียดนามได้ขยับราคาข้าวจัสมิน 85 ขึ้นมาอยู่ที่ตันละ 680-700 ดอลลาร์สหรัฐฯ
"ข้าวหอมของไทยดูแล้วอนาคตไม่สดใส ปี 2551 ที่ผ่านมาทั้งปริมาณข้าวหอมมะลิและข้าวหอมปทุมธานีต่างลดลงอย่างมาก โดยข้าวหอมมะลิต้นข้าวลดลงจากปี 2550 ที่ส่งออกได้ 1,865,782 ตัน เหลือ 1,804,304 ตัน หรือลดลงร้อยละ 3 ขณะที่ปลายข้าวหอมมะลิลดลงเช่นเดียวกันและลดลงมากกว่าต้นข้าวหอมมะลิ กล่าวคือลดลงถึงร้อยละ 33 จากที่ส่งออกปี 2550 ปริมาณ 1,038,123 ตัน ปี 2551 ส่งออกได้เพียง 694,338 ตัน ข้าวหอมปทุมธานีลดลงร้อยละ 32 จากปี 2550 ส่งออก 347,848 ตัน ปี 2551 ส่งออก 236,474 ตัน" นายเจริญ กล่าวและว่า
ไม่เพียงเท่านั้นประเทศกัมพูชาได้มีการพัฒนาข้าวหอมมะลิเช่นเดียวกัน โดยเวลานี้จากที่รัฐบาลเปิดรับจำนำข้าวหอมมะลิตันละ 15,000 บาท ได้มีการนำข้าวหอมมะลิจากกัมพูชาเข้ามาสวมสิทธิ์โครงการรับจำนำข้าวหอมมะลิไทย เพราะปีนี้ข้าวหอมมะลิไทยช่วงเก็บเกี่ยวเจอฝนคุณภาพข้าวต่ำมาก เมื่อนำข้าวหอมมะลิจากกัมพูชาซึ่งมีคุณภาพด้อยอยู่แล้ว มาปลอมปนจะดูไม่ออกเพราะคุณภาพใกล้เคียงกันมาก
นอกจากนี้โครงการจำนำยังส่งผลเสียหลายด้าน การตั้งราคาจำนำสูงจนเปิดช่องให้มีการนำข้าวกัมพูชามาสวมสิทธิ์ และการรับจำนำที่เก็บไว้นานทำให้คุณภาพข้าวเสื่อมตามไปด้วย เพราะข้าวหอมมะลิจะต้องขายในรูปของข้าวใหม่ที่เพิ่งเก็บเกี่ยวไม่ใช่ข้าวที่เก็บค้างปี เมื่อเก็บไว้นานแล้วนำออกมาประมูลขายคุณภาพข้าวต่ำ ทำให้ภาพลักษณ์ข้าวหอมะลิไทยที่ได้ชื่อว่าเป็นข้าวคุณภาพดีที่สุดในโลกถูกมองจากลูกค้าว่าเป็นข้าวเกรดต่ำ ที่สำคัญโครงการจำนำปีนี้ที่มีข้าวจากกัมพูชาเข้ามาปลอมปนคุณภาพข้าวหอมมะลิไทยยิ่งแย่หนักลงไปอีก เป็นปัญหาใหญ่มากที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการแก้ปัญหาข้าวหอมไม่ให้สูญเสียขีดความสามารถในการแข่งขัน
"โดยภาพรวมแล้วข้าวไทยทุกชนิดต้องเจอการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น โดยข้าวขาวต้องแข่งกับเวียดนามอย่างหนักอยู่แล้ว เพราะเวลานี้ราคาต่างกันถึงตันละ 200 ดอลลาร์สหรัฐฯ ข้าวหอมมะลิเจอการแข่งขันกับหอมมะลิจีน ล่าสุดหอมปทุมยังต้องมาเจอกับเวียดนามอีก ทางออกของผู้ส่งออกเวลานี้สำหรับข้าวหอมต้องมุ่งไปที่ตลาดสหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย"
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ |