นายนิกร จำนง ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า คณะทำงานเฉพาะกิจด้านมาตรการสินค้าเกษตร ภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียนหรืออาฟตา ที่ในปี 53 จะมีการเปิดเสรีการค้าอาเซียนสินค้าเกษตร 23 รายการ ซึ่งในส่วนของไทยเป็นห่วงเรื่องการ นำเข้าข้าวมากที่สุด เนื่องจากเกรงว่าอาจจะมีข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านที่ปนเปื้อนข้าวที่มีการตัดต่อพันธุกรรม หรือจีเอ็มโอ เข้ามาปนกับข้าวของไทยที่มีคุณภาพดี และหากถูกส่งออกไปจากไทย ซึ่งหากประเทศผู้นำเข้าตรวจพบ จะเป็นการทำลายตลาดข้าวไทยอย่างไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้

ทั้งนี้ คณะทำงานยกร่างมาตรฐานฯเห็นว่าควรที่จะกำหนดให้ประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นต้นทางที่จะส่งข้าวมาให้ประเทศไทย จะต้องตรวจรับรองข้าวว่าไม่มีการปนเปื้อนจีเอ็มโอ โดยให้นำใบรับรองการปลอดจีเอ็มโอ และใบรับรองสุขอนามัยพืชมาแสดงประกอบการนำเข้า นอกจากนี้จะต้องเพิ่มความเข้มงวดของด่านบริเวณชายแดนในการตรวจสินค้า ทั้งสินค้าเกษตรและอาหารว่ามีสารปนเปื้อนและนำเข้าอย่างถูกต้องหรือไม่โดยให้คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และกรมวิชาการเกษตรร่วมกันตรวจสอบ รวมถึงต้องขึ้นทะเบียนผู้นำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย พร้อมกับมีระบบติดตามการนำเข้าว่านำสินค้าไปทำอะไร ปริมาณมากน้อยแค่ไหน เมื่อมีปัญหาจะสามารถตรวจ สอบย้อนกลับได้ว่ามาจากไหน ไม่ให้ปะปนกับสินค้าของไทย

"ราคาข้าวในอาเซียนถูกกว่าไทย  หากมีข้าวจากเพื่อนบ้านมาผสมกับข้าวไทยแล้วส่งออก จะทำให้ ผู้นำเข้าไม่เชื่อถือสินค้าไทย จึงต้องมีมาตรการที่เข้มงวดป้องกันไว้ หากผู้ที่ขึ้นทะเบียนนำเข้าข้าวจากเพื่อนบ้านมาผสมกับข้าวไทยเพื่อส่งออกจะถูกยึดใบอนุญาตผู้นำเข้า 1 ปี"

ที่มา ไทยรัฐ