www.riceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

'พงษ์ลาภ' ขู่ฟ้อง อคส.-พาณิชย์ เบี้ยวประมูลขายข้าว 2.6 ล้านตัน


แหล่งข่าวในวงการค้าข้าว เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าจากการที่องค์การคลังสินค้า (อคส.)ซึ่งได้รับมอบหมายจากนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้ดำเนินการเปิดประมูลขายข้าวสารในสต๊อกจำนวนประมาณ 3 ล้านตัน เปิดประมูลเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม หลังจากต่อรองราคาแล้วได้อนุมัติขายประมาณ 2.6 ล้านตัน และให้ผู้ส่งออกที่ชนะประมูลเซ็นสัญญาซื้อขายตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางอคส.โดยนายวิวัฒน์ เลาหพูนรังสี ประธานกรรมการ อคส.ได้เชิญผู้ได้รับอนุมัติให้ซื้อข้าวไปรับฟังคำชี้แจง

โดยทาง อคส.ได้แจ้งให้ผู้ส่งออกทราบว่าให้ระงับการขนข้าวออกจากคลังสินค้า ให้รอ มติคณะรัฐมนตรี (ครม.)วันที่ 26 พฤษภาคม ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะนำเสนอให้ครม.พิจารณาเรื่องดังกล่าวก่อน

แหล่งข่าวกล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวของอคส.กระทบกับผู้ส่งออกข้าวหลายราย เพราะผู้ส่งออกได้รับคำสั่งซื้อและเวลานี้มีเรือเข้ามารับมอบข้าวแล้ว เมื่อนำข้าวออกจากคลังของรัฐบาลไม่ได้ ทำให้ต้องเลื่อนเวลาส่งมอบ ทำให้สูญเสียรายได้จากออร์เดอร์ที่รับมาและเสียเครดิตกับลูกค้าเป็นอย่างมาก

นายสมพงษ์ กิตติเรียงลาภ ประธานบริษัท พงษ์ลาภ จำกัด 1 ในจำนวนผู้ชนะประมูลซื้อข้าวครั้งนี้ กล่าวว่าการห้ามนำข้าวออกจากโกดัง บริษัทได้รับความเสียหายอย่างมาก เพราะได้รับคำสั่งซื้อข้าวจากประเทศฟิลิปปินส์และแอฟริกาไว้ ทั้งข้าวขาว 25%, ข้าวขาว 10%,ข้าวขาว 5% ข้าวเหนียว และข้าวหอมปทุมธานี และเวลานี้เรือได้มาจอดรอรับมอบข้าวแล้ว ทำให้บริษัทต้องเลื่อนเวลาส่งมอบข้าวให้กับลูกค้า

การกระทำดังกล่าวของอคส. เป็นการแจ้งด้วยวาจาไม่มีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร อีกทั้งเห็นว่าเข้าข่ายฉ้อโกง เพราะสินค้าเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อแล้ว เนื่องจากเซ็นสัญญาซื้อขายแล้ว วางหลักประกันสัญญาแล้ว แต่ อคส.ไม่ยอมให้นำข้าวออก ตามเงื่อนไขการประมูลซื้อข้าวได้ระบุชัดเจนว่าผู้ที่ได้รับคัดเลือกให้ซื้อข้าวได้ต้องทำสัญญาซื้อขายกับอคส.หรืออ.ต.ก. ภายใน 10 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งผลการพิจารณา หากไม่ทำสัญญาภายในเวลาดังกล่าว จะมีความผิดว่าเป็นผู้ละทิ้งสัญญา

"ดังนั้นหลังจากที่บริษัทได้รับแจ้งผลจึงรีบทำสัญญาพร้อมทั้งวางหลักประกันสัญญา 5% ของมูลค่าข้าว ซึ่งเป็นวงเงินประมาณ 600-700 ล้านบาท หลังจากทำสัญญาแล้วได้นำข้าวออกจากคลังได้เพียง 200 ตันเท่านั้น ความเสียหายที่เกิดขึ้นครั้งนี้ บริษัทจึงเตรียมที่จะฟ้องร้องเรียกค่าความเสียหาย โดยอคส.ต้องเป็นจำเลยแรก"

เช่นเดียวกับนายวิชัย ศรีนวกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท โรงสีข้าวเจริญผล จำกัด กล่าวว่า ได้รับการคัดเลือกซื้อข้าวครั้งนี้เป็นข้าวขาว 5% นาปรังปี 2551 ปริมาณ 5,000 ตัน ราคาตันละ 15,000 บาท เสนอประมูลซื้อเพราะได้ขายข้าวขาว 5% ให้กับลูกค้าแอฟริกาจำนวน 2,000 ตันกำหนดส่งมอบต้นเดือนมิถุนายน ศกนี้ ซึ่งเป็นการเปิดตลาดข้าวขาวครั้งแรกของบริษัท หากจะซื้อในท้องตลาดซึ่งอยู่ที่ตันละ 16,500-17,000 บาท จะไม่คุ้มกับราคาที่รับมาจึงเสนอซื้อข้าวสต๊อกรัฐบาล เมื่อ อคส.ห้ามขนข้าวออกจากคลังต้องเลื่อนเวลาส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าออกไป ทำให้บริษัทเสียเครดิตเพราะเป็นการเปิดตลาดข้าวขาวครั้งแรกด้วย

แหล่งข่าวกล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุที่ อคส.ต้องระงับไม่ให้ผู้ส่งออกขนข้าวออกจากคลัง เชื่อว่า อคส.คงจะรู้อยู่แก่ใจว่าการเปิดประมูลครั้งนี้มีความไม่โปร่งใสหลายประการ หาก ครม.ซักถามมีหลายคำถามที่อคส.และนางพรทิวา ไม่สามารถจะชี้แจงได้ ได้แก่ 1.เงื่อนไขบางเงื่อนไขไม่ได้ระบุไว้ในประกาศเปิดประมูลขายข้าว เช่นห้ามไม่ให้ใช้เอกสารสำแดงการส่งออกของบริษัทอื่นมาสำแดงเพื่อรับหลักประกันสัญญาคืน แต่กลับแจ้งให้กับผู้ส่งออกรับทราบด้วยวาจา 2.ราคาข้าวที่อนุมัติขายต่ำกว่าราคาตลาดมากเกินไปเช่นข้าวเหนียวราคาตลาดข้าวเหนียว 10% เมล็ดคละตันละ 13,500-14,000 บาท เมล็ดยาวตันละ 14,000-15,000 บาท ปลายเหนียวเอวันเลิศตันละ 10,500-11,500 บาท ปลายเหนียวเลี้ยงหมูตันละ 7,500-7,800 บาท แต่อนุมัติขายเพียงตันละ 8,500-10,500 บาท ถือว่าต่ำเกินไปเพราะข้าวเหนียวเป็นข้าวฤดูใหม่คุณภาพยังดีอยู่

3.การเจรจาต่อรองไม่เป็นธรรมกับผู้ประมูลบางราย เช่นบริษัทที่เสนอราคาซื้อตันละ 14,000 บาทไม่ได้รับอนุมัติให้ซื้อ แต่บริษัทที่เสนอตันละ 14,050 บาท อนุมัติให้ซื้อ 4.เร่งรัดเจรจาต่อรองราคา เพราะเปิดประมูลขายวันที่ 6 พฤษภาคม หลังจากนั้นวันที่ 8 พ.ค.เป็นวันหยุดวิสาขบูชา วันที่ 9-10 พ.ค.เป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ วันที่ 11 พ.ค. เป็นวันหยุดพืชมงคล อคส.ใช้เวลาวันหยุดราชการดังกล่าวต่อรองราคากับเอกชน และส่งหนังสือแจ้งให้มาเซ็นสัญญาซื้อขายภายใน 10 วัน นับจากวันได้รับหนังสือ ซึ่งได้ส่งวันที่ 14 พ.ค. ทั้งที่วันที่ 13 พ.ค. ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจ ได้เปิดซักถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กรณีอนุมัติขายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ว่าทำไมจึงเสนอให้ผู้ส่งออกรายเดียวจำนวนมาก ทำไมราคาต่ำกว่าท้องตลาด และยังเป็นการพิจารณาระบายโดยคณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยรัฐบาลชุดที่ผ่านมา กระทั่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีต้องสรุปนับแต่นี้การระบายสินค้าเกษตรทุกชนิดต้องผ่านการพิจารณาของครม.ก่อน แต่วันรุ่งขึ้น(14 พฤษภาคม)อคส.กลับเรียกเอกชนมาเซ็นสัญญาซื้อขายข้าว

"เมื่อเซ็นสัญญาซื้อขายไปแล้ว ทำให้ต้องระงับไม่ให้ขนข้าวออก เพราะไม่ทราบว่าผลประชุมครม.วันที่ 26 พฤษภาคม จะมีมติอย่างไร จะให้ขายหรือยกเลิกการประมูลครั้งนี้ ซึ่งความไม่ชัดเจนทำให้เอกชนวางแผนธุรกิจผิดพลาด คนที่เขาได้รับความเสียหายมากจำเป็นต้องดำเนินการฟ้องร้อง"

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@riceexporters.or.th or reat@ksc.th.com


Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.