เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.  เวลา 17.40 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมด้วยคณะ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเหรียญสดุดีพระเกียรติคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งทรงอุทิศกำลังพระวรกายในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาพันธุ์ข้าว และการผลิตข้าวไทย และกราบบังคมทูลรายงานเกี่ยวกับสิทธิบัตรยีนที่ควบคุมความหอมของข้าว

โอกาสนี้ มีพระราชดำรัสกับคณะผู้เข้าเฝ้าฯ ความว่า “ขอบใจที่นำสิทธิบัตรนี้ ซึ่งถือว่าเป็นการประกันว่าการข้าวไทยเป็นของไทยแท้ ซึ่งคนหนักใจว่าเราเป็นข้าวไทยมานานแล้วจะกลายเป็นต้องไปกินข้าวฝรั่ง เพราะว่าสิทธิบัตรนี้เป็นของฝรั่ง แต่ว่ามาอย่างนี้ก็ถือว่าเป็น ว่าเราได้รับประกันว่าเราเป็นข้าวไทย และจะกินข้าวไทยต่อไป ฉะนั้นการที่มีสิทธิบัตรนี้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ และก็หวังว่าจะต้องทุกคน จะรักษาความเป็นไทยได้ด้วย รับประทานกินข้าวไทยไม่ต้องกินข้าวฝรั่ง

ขอขอบใจทุกคนที่ได้จัดการเกี่ยวข้องกับเรื่องประกันนี้ สำหรับในนามของไทยทั้งหลายที่มีความภูมิใจได้กินข้าวไทย ก็ขอขอบใจทุกคนที่ตั้งใจ การทำงานเพื่อการนี้ ขอให้ท่านได้ช่วยกันทำให้เราสามารถสืบของไทย แล้วก็กินข้าวไทยแท้ ไม่ใช่ต้องไปกินข้าวฝรั่ง เชื่อว่าการกินข้าวไทยนี้ทำให้คนไทยมีความภูมิใจในความเป็นไทยได้ ก็ขอขอบใจทุกท่านที่ทำงานเพื่อการนี้ต่อไป และได้เป็นคนไทยต่อไป”

สำหรับเหรียญสดุดีพระเกียรติคุณ “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” เป็นเหรียญที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) จัดทำขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติและแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระราชทานความช่วยเหลือพสกนิกรชาวไทยทุกสาขาอาชีพ โดยเฉพาะชาวนาไทยตลอด 60 ปีที่ทรงครองราชย์ ผลิตจากทองคำบริสุทธิ์ร้อยละ 96.5 น้ำหนักรวม 29 บาท เส้นผ่าศูนย์กลาง 9.9 เซนติเมตร ด้านหน้ากลางเหรียญมีพระบรมรูปพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ด้านหลังกลางเหรียญมีข้อความว่า “80 พรรษา” เบื้องบนข้อความมีตราอุณาโลม เบื้องล่างมีรวงข้าวและข้อความว่า “ข้าวทองคำ” ประดับบนเหรียญ

เหรียญสดุดีดังกล่าวออกแบบโดยนายนิพนธ์ ยอดคำปัน กาญจนาภิเษกวิทยาลัย ช่างทองหลวงในพระบรมมหาราชวัง โดยรูปรวงข้าวหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ของชาติ ข้อความ“80 พรรษา” แสดงถึงโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550

สำหรับเลข ๙ ในหยดน้ำตรงกลางรวงข้าว เปรียบเสมือนหยาดน้ำพระราชหฤทัย ที่ทรงงานเพื่อพสกนิกรชาวไทย รูปดอกบัวเปรียบเสมือนศูนย์รวมจิตใจของคนในชาติ ข้อความ “ข้าวทองคำ” เปรียบเสมือนข้าวที่มีค่าเหมือนทองคำมีความสำคัญต่อการเป็นอยู่ของคนในชาติ

ด้านในของเหรียญประกอบด้วยก้อนทองที่ทำเป็นลักษณะก้อนดิน ฝังด้วยเมล็ดข้าว 9 พันธุ์ บรรจุไว้ด้านในตลับทองคำ ภายในเหรียญพระเกียรติคุณ เป็นการเทิดทูนคุณของแผ่นดินที่ใช้ในการปลูกข้าวซึ่งมีค่าดุจดั่งทอง ประกอบด้วย ข้าวพันธุ์ที่ใช้ในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญปี 2550 ได้แก่ พันธุ์ปทุมธานี 1 สุพรรณบุรี 1 ขาวดอกมะลิ 105 กข 6 พัทลุง ข้าวเจ้าพิษณุโลก 1 พันธุ์ข้าวพื้นเมือง ได้แก่ พันธุ์สังข์หยด พันธุ์ที่พัฒนาใหม่ ได้แก่ พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 ทนน้ำท่วมฉับพลัน พันธุ์ไรซ์เบอรี่

ทางคณะทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญสดุดีพร้อมกับสิทธิบัตรผลงานวิจัยการค้นพบยีนควบคุมความหอมของข้าว ของนักวิจัย วท.ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งได้รับสิทธิบัตรจาก สำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าแห่งสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2551 โดยยื่นจดสิทธิบัตรทั้งหมดใน 10 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย จีน ฟิลิปปินส์ ไทย ญี่ปุ่น เวียดนาม อินเดีย ฝรั่งเศส และยุโรป

นักวิจัยศึกษาการทำงานของยีนนี้ในข้าวหอมพบว่า ยีนจะถูกกดหรือถูกยับยั้ง จึงเกิดการสร้างสารหอมขึ้นมา ขณะที่ข้าวสายพันธุ์ที่ไม่หอม ยีนนี้จะมีการแสดงออกหรือทำงานสร้างสารอื่นแทนการสร้างสารหอม จากการทดลองยับยั้งการแสดงออกของยีนในข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์นิพพอนบาเร ปรากฏว่าข้าวนิพพอนบาเรสามารถสร้างสารหอมได้

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ