นายเอ็นนู ซื่อสุวรรณ รองผู้จัดการรักษาการแทนผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.พร้อมเดินหน้าโครงการประกันราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง และข้าวเปลือกตามนโยบายของรัฐบาล โดยขอให้เกษตรกรที่ผ่านการขึ้นทะเบียนเกษตรกรและจัดประชุมประชาคม นำหนังสือรับรองติดต่อ ธ.ก.ส.เพื่อจัดทำสัญญาประกันราคาพืชผลแต่ละชนิดได้
ในส่วนของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ณ ความชื้น 14.5% ราคากิโลกรัมละ 7.10 บาท มันสำปะหลัง ณ เชื้อแป้ง 25% ราคาประกันกิโลกรัมละ 1.70 บาท ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิและข้าวเปลือก กข.15 ความชื้น 15% ราคาประกันอยู่ที่ตันละ 15,300 บาท ข้าวเปลือกหอมจังหวัด ตันละ 13,300 บาท ข้าวเปลือกปทุมธานีตันละ 10,000 บาท ข้าวเปลือกเจ้านาปีตันละ 10,000 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 9,500 บาท โดยมีเป้าหมายประกันราคาที่ 23.5 ล้านตัน มันสำปะหลัง 29.7 ล้านตัน และ ข้าวโพด 4.25 ล้านตัน
นายเอ็นนู กล่าวว่า การดำเนินโครงการดังกล่าว เกษตรกรสามารถใช้สิทธิเข้าร่วมโครงการได้ในปริมาณที่กำหนด โดยข้าวเปลือกหอมมะลิและข้าวเปลือก กข.15 ไม่เกิน 14 ตัน ข้าวหอมจังหวัดไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกปทุมธานี ไม่เกิน 20 ตัน ข้าวเปลือกเจ้านาปี ไม่เกิน 20 ตัน ข้าวเปลือกเหนียว ไม่เกิน 16 ตัน และแต่ละครัวเรือนใช้สิทธิร่วมโครงการได้มากกว่า 1 ชนิดข้าวเปลือก แต่รวมแล้วต้องไม่เกิน 20 ตัน ส่วนมันสำปะหลังไม่เกิน 100 ตัน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไม่เกิน 20 ตัน
ขณะที่การกำหนดราคาอ้างอิง คณะอนุกรรมการกำหนดราคาตลาดอ้างอิง ที่ใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างราคาให้เกษตรกร ในการจำหน่ายสินค้าเกษตร โดยกำหนดราคาตลาดอ้างอิงทุกวันที่ 1 และ 16 ของแต่ละเดือน ก่อนนำเสนอประธานกรรมการนโยบายพืชแต่ละชนิดให้ความเห็นชอบก่อนประกาศราคาตลาดอ้างอิง
ส่วนระยะเวลาในการใช้สิทธิประกันของชาวนาได้ตั้งแต่เดือนต.ค. 2552 - ก.พ. 2553 มันสำปะหลังได้ตั้งแต่ถัดจากทำสัญญา 45 วัน แต่ไม่เกิน 6 เดือน และต้องไม่เกินวันที่ 31 พ.ค. 2553 ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ใช้สิทธิได้ หลังจากวันทำสัญญา 15 วัน แต่ไม่เกิน 3 เดือน และต้องไม่เกินวันที่ 28 ก.พ. 2553
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ |