แหล่งข่าวจากกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่าเร็วๆ นี้ กรมจะเรียกผู้ประกอบการโรงสี ผู้ส่งออก และพ่อค้าข้าว มาหารือเพื่อขอความร่วมมือให้เข้ามาช่วยเหลือรัฐบาลในการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวตามมาตรการพยุงราคา หลังจากที่ระบบประกันราคาข้าวจะเริ่มภายในเดือนต.ค.นี้ โดยจะให้รับซื้อข้าวในราคาตลาด ซึ่งรัฐบาลจะช่วยเหลือโดยการชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับโรงสีและผู้ส่งออกที่เข้าร่วมโครงการช่วยเหลือรัฐบาล

“เบื้องต้นรัฐบาลอาจช่วยชดเชยดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการโรงสีในอัตรา 3% ของอัตราดอกเบี้ยปกติ เป็นแนวทางหนึ่งในการให้โรงสีและผู้ส่งออกยอมเข้ามาช่วยซื้อข้าวในตลาดในราคาปกติ เพื่อป้องกันปัญหาราคาข้าวตกต่ำ” นายยรรยง กล่าว

สำหรับกรณีที่โรงสีขอให้มีการเปิดนำเข้าต้นข้าวและข้าวเปลือกภายใต้กรอบการค้าเสรี (อาฟตา) ที่จะเริ่มลดภาษีเป็น 0% ในวันที่ 1 ม.ค.2553 ยืนยันว่าไม่มีการนำมาเป็นประเด็นต่อรองแลกเปลี่ยนเพื่อให้โรงสีเข้ามาช่วยรับซื้อข้าวตามมาตรการพยุงราคาครั้งนี้แน่นอน โดยการนำเข้าข้าวภายใต้กรอบอาฟตาจะต้องปฏิบัติตามระเบียบที่กรมการค้าต่างประเทศกำหนดออกมาเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับข้าวภายในประเทศ

ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ได้เห็นชอบในมาตรการพยุงราคาข้าวหลังในระบบประกันราคา 7 มาตรการ เช่น ให้ผู้ประกอบการโรงสีรับซื้อข้าวในราคาตลาด โดยรัฐบาลจะช่วยเหลือเรื่องอัตราดอกเบี้ยบางส่วนที่โรงสีต้องกู้เงินกับสถาบันการเงินให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) รับซื้อข้าวเพื่อการส่งออกโดยรัฐบาลจะช่วยเหลือด้านสภาพคล่องให้กับสองหน่วยงาน เร่งให้กรมการค้าต่างประเทศผลักดันการส่งออก เพื่อระบายผลผลิตออกสู่ตลาดและให้ผู้ส่งออกเพิ่มสำรองข้าวในสต็อกมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม มาตรการพยุงราคาที่กำหนดออก จะใช้ก็ต่อเมื่อราคาอ้างอิงที่กำหนดในระบบประกันราคาข้าวตกต่ำมาก และราคาขายในตลาดปกติตกต่ำ จนทำให้รัฐบาลต้องชดเชยค่าส่วนต่างการประกันราคาเพิ่มขึ้น ก็จะนำมาตรการพยุงราคาออกมาใช้ทันที แต่หากการขอความร่วมมือรักษาเสถียรภาพราคาข้าวไม่สำเร็จ หากพบมีโรงสีหรือผู้ส่งออก มีการบิดเบือนราคาซื้อข้าว จนทำให้ระบบประกันราคาของรัฐบาลล้มเหลว อาจจะพิจารณาใช้มาตรการทางกฎหมายเข้ามาดูแล เช่น พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ และ พ.ร.บ.ค้าข้าว

นายชาญชัย รักษ์ธนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า ต้องขอดูเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือที่รัฐบาลจะช่วยดอกเบี้ยเงินกู้ 3% ก่อนเพื่อแลกกับการซื้อข้าวในตลาดว่ามีเงื่อนไขอื่นนอกเหนือจากนี้หรือไม่ เบื้องต้นเห็นว่าโรงสีไม่มีทางที่จะฮั้วกดราคาข้าวได้ เนื่องจากกำลังการสีแปรของโรงสีในประเทศทั้งหมด 3,000 รายรวมกันสามารถสีแปรข้าวได้ 100 ล้านตันต่อปี ขณะที่ผลผลิตข้าวทั้งปีมีเพียง 32 ล้านตัน ทำให้โรงสีต้องแย่งกันซื้อข้าว

“ยินดีให้ความร่วมมืออยู่แล้ว แต่เงื่อนไขแลกกับเงินช่วยเหลือ 3% ขอดูอีกที ถ้าให้ 3% และซื้อข้าวตันละ 1 หมื่นบาท และรัฐรับประกันว่าขายข้าวได้ในราคาเหมาะสมก็ไม่มีปัญหาอะไร” นายชาญชัย กล่าว

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ