นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้มีปัญหาเมื่อเกษตรกรนำข้าวเปลือกไปจำนำและถูกปฏิเสธจากโรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง 2552 คณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติระดับจังหวัด จึงเปิดให้เกษตรกรสามารถร้องเรียนได้ที่การค้าภายในจังหวัด หรือสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 เพื่อเร่งดำเนินการแก้ปัญหา
ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ได้มีมติให้เพิ่มการรับจำนำข้าวเปลือก จากเดิม 4 ล้านตัน เป็น 6 ล้านตัน จึงมั่นใจว่าโรงสีไม่มีสาเหตุ ที่จะอ้างไม่ให้ชาวนาเข้าร่วมโครงการฯ เนื่องจากการพิจารณาจัดสรรปริมาณการรับจำนำเพิ่มเติม ให้แต่ละจังหวัดตามผลผลิตคงเหลือตามข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (มิ.ย.-ก.ค.) แล้ว
ส่วนการจัดสรรปริมาณรับจำแต่ละโรงสี ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติระดับจังหวัด พิจารณาจัดสรรปริมาณรับจำนำให้โรงสี ที่เข้าร่วมโครงการกับองค์การคลังสินค้า (อคส.) และ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) โดยพิจารณาตามกำลังการผลิตของโรงสีที่เข้าร่วมโครงการหรือตามที่เห็นสมควร และให้กำกับดูแลการรับจำนำข้าวเปลือกให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัด
นายยรรยง กล่าวว่า สถานการณ์รับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง 2552 ขณะนี้คลี่คลายแล้วหลังจากที่รัฐเข้มงวดการรับซื้อข้าวของโรงสีที่ต้องมีสัดส่วนที่โรงสีรับซื้อไว้เอง 50% ของปริมาณข้าวที่รับจำนำไว้ ทำให้ข้าวหายไปจากระบบจำนวนมากและมั่นใจว่าโควตารับจำนำที่เพิ่มขึ้น 2 ล้านตันจะเพียงพอกับความต้องการของเกษตรกรที่ต้องการเข้าร่วมโครงการฯ
ทั้งนี้ สถิติการเข้าร่วมโครงการฯมีจำนวนลดลงเหลือเฉลี่ยวันละ 2 พันตัน จากก่อนหน้านี้ที่มีการเข้าร่วมโครงการเฉลี่ยวันละ 9 หมื่น-1 แสนตันต่อวัน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ กำหนดจะส่งเจ้าหน้าที่สุ่มตรวจสถานการณ์อย่างใกล้ชิดอย่างต่อเนื่องต่อไป
“ตอนนี้ราคาตลาด เพิ่มขึ้นเฉลี่ยตันละ 400-500 บาท จากสาเหตุที่มีการรับซื้อข้าวมากขึ้นแม้สถิติข้าวที่เข้าร่วมโครงการจะลดลง ทั้งที่ปริมาณผลผลิตยังออกสู่ตลาดต่อเนื่อง” นายยรรยง กล่าว
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ |