พาณิชย์เรียกประชุมพยุงราคาข้าววันนี้ หลังตลาดกดต่ำกว่าราคาอ้างอิง ผู้ส่งออกหนุนตั้งจุดรับซื้อแข่ง คาดพยุงราคา ผู้ซื้อต่างชาติเชื่อมั่น หลังรัฐบาลเปลี่ยนระบบบริหารสินค้าเกษตรจากระบบรับจำนำมาเป็นประกันในฤดูกาลผลิตนี้ โดยที่ผ่านมาได้ประกาศราคาประกัน 3 สินค้าเกษตรคือ ข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

ทั้งนี้ ราคาอ้างอิงสำหรับสินค้าข้าว ตั้งแต่เริ่มประกาศราคาอ้างอิงต้นเดือนต.ค. ตามกำหนดรัฐบาลจะประกาศราคาอ้างอิงทุกวันที่ 1 และ 15 ของเดือน ราคารับซื้อข้าวในตลาด โดนกดต่ำกว่าราคาอ้างอิง ขณะโรงสีที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการค้าภายใน เพื่อเข้าไปแทรกแซงราคาข้าวรับซื้อในราคาอ้างอิง จะเริ่มเปิดรับซื้อวันที่ 9 พ.ย.นี้ ผลดังกล่าวกระทรวงพาณิชย์จึงเรียกประชุม

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า วันที่ 27 ต.ค.นี้ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ จะเชิญสมาคมหารือถึงการใช้มาตรการรับซื้อข้าวเปลือกนาปี 2552/2553 และสถานการณ์ส่งออกข้าวไทย

นายชูเกียรติ กล่าวว่า เบื้องต้นสมาคมพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐ เพราะเห็นว่าการเปิดจุดรับซื้อข้าวเปลือกจำนวน 2 ล้านตัน ตามมาตรการพยุงราคาข้าวสามารถดันราคาสูงขึ้นได้ ถ้ารับซื้อเท่ากับราคาอ้างอิง ตลาดจะได้ไม่สับสน ขณะนี้ราคาอ้างอิงข้าวเปลือกเจ้าตันละ 8,500 บาท ต่ำกว่าราคาประกันตันละ 1 หมื่นบาท

“การรับซื้อราคาอ้างอิงจะช่วยไม่ให้ราคาตกลงไปอีก หรือต่ำกว่า 7,000 บาท/ตัน อย่างที่กังวล และทำให้ผู้ซื้อในต่างประเทศเชื่อมั่นถึงราคาที่ไม่ลดลง” นายชูเกียรติ กล่าว

สำหรับการหารือถึงสถานการณ์ส่งออกข้าว ทางสมาคมจะชี้แจงต่อกระทรวงพาณิชย์ว่าการส่งออกมีแนวโน้มดีขึ้นแล้ว ก่อนหน้านี้นายชาญชัย รักษ์ธนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เตรียมทำหนังสือถึงสำนักนายกรัฐมนตรี เสนอมาตรการรับซื้อข้าวเปลือก ว่าการกำหนดราคารับซื้อตามราคาอ้างอิงไม่ช่วยให้ราคาตลาดสูงขึ้น และเป็นการเสียงบประมาณซ้ำซ้อน

นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้โรงสี มีการกดราคารับซื้อข้าวจากชาวนา ทำให้ราคาข้าวตกต่ำ โดยอ้างว่าข้าวจากชาวนามีความชื้นสูง จึงสั่งการให้กรมส่งเสริมสหกรณ์นำยุ้ง ฉาง ไซโล และลานตากข้าวที่มีอยู่ มาให้สมาชิกสหกรณ์นำข้าวมาตากให้แห้งก่อนขาย

ที่มา โพสต์ทูเดย์