นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เปิดเผยว่า การประชุมอาเซียนซัมมิตที่ผ่านมา เวทีอาเซียนไม่มีการหยิบยกประเด็น เรื่องการลดภาษีข้าวมาหารือกัน ดังนั้น การข้อตกลงการลดภาษีข้าวเหลือ 0% จึงยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ไม่มีผลกระทบต่อไทยที่เป็นผู้ส่งออกข้าว ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องไปเจรจากับสมาชิก โดยเฉพาะประเทศฟิลิปปินส์ที่ไม่ยอมลดภาษีเหลือ 20% ตามข้อตกลง โดยสาเหตุที่ฟิลิปปินส์ไม่ยอมลดภาษีข้าวลงตามข้อตกลง น่าจะมาจากเหตุผลทางการเมืองภายในประเทศ

นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้หารือกับรัฐมนตรีการค้าฟิลิปปินส์ เกี่ยวกับการลดภาษีข้าวในกรอบอาฟตา ซึ่งพร้อมพิจารณาข้อเสนอของไทย ที่เสนอให้ฟิลิปปินส์เปิดโควตาข้าวให้ไทย 3.7 แสนตัน อัตราภาษี 0% หรือลดภาษี 20-25% เท่ากับมาเลเซียและอินโดนีเซีย โดยไม่มีการจำกัดโควตา เพื่อชดเชยกรณีที่ฟิลิปปินส์ไม่ได้ดำเนินการ ตามข้อตกลงเดิมของอาฟตาในการลดภาษีข้าว โดยขณะนี้ฟิลิปปินส์เรียกเก็บภาษีข้าวในอัตรา 40%

นายสุทัศน์ เศรษฐ์บุญสร้าง ผู้แทนการค้าไทย กล่าวว่า การลดภาษีนำเข้าข้าวนั้นเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ของไทย ในส่วนกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และกรมการค้าต่างประเทศ ต้องเดินหน้าเจรจากับทั้ง 3 ประเทศนี้ต่อไป เพื่อให้ลดภาษีลงมาในระดับเหมาะสม ขณะที่ทั้ง 3 ประเทศกำหนดให้สินค้าข้าวอยู่ในรายการสินค้าที่มีความอ่อนไหวสูงมาก เพราะมีเหตุผลทางการเมืองในประเทศ

ท่าทีล่าสุดฟิลิปปินส์ยังตั้งกำแพงภาษีนำเข้าข้าวไว้ที่ 40% และขอขยายระยะเวลาการลดภาษีออกไปจนถึงปี 2557 ส่วนอินโดนีเซียตั้งกำแพงภาษีข้าวไว้ที่ 25% และจะลดภาษีทันทีในวันที่ 1 ม.ค. 2553 เช่นเดียวกับประเทศมาเลเซียเท่านั้นที่ยอมลดภาษีข้าวลงเหลือ 20% ตามกรอบข้อตกลง ทั้งนี้ ข้อตกลงกำหนดให้ประเทศที่จัดบัญชีลดภาษี ข้าวเป็นสินค้าที่มีความอ่อนไหวสูงให้ลดภาษีลงเหลือ 20% ก่อนที่ปี 2554 จะมีการเจรจาอีกครั้ง

"ถ้าฟิลิปปินส์เปิดเสรีนำเข้าข้าวเหลือ 0% ชาวนาของเขาจะอยู่ไม่ได้ ขณะที่ปีหน้าฟิลิปปินส์จะมีการเลือกตั้ง การเปิดเสรีข้าวจึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องคิดหนัก เพราะข้าวก็เป็นสินค้าที่ทำให้หลายรัฐบาล รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ของฟิลิปปินส์ ต้องตกเก้าอี้ไปหลายคนแล้ว" นายสุทัศน์ กล่าว

ส่วนเวียดนามแม้จะเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ แต่เขาไม่สนใจว่าฟิลิปปินส์จะลดภาษีหรือไม่ เพราะวันนี้เวียดนามคือผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของฟิลิปปินส์ ซึ่งหากไทยวางท่าทีไม่ดีเราอาจเป็นผู้ร้ายในสายตาอาเซียนไปก็ได้

"การที่ไทยจะลดภาษีนำเข้าข้าวเหลือ 0% ไม่น่ามีปัญหาหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการดูแลการนำเข้าข้าวที่ไม่ได้คุณภาพออกมา และน่าเป็นประโยชน์ต่อไทยมากกว่า ด้วยการนำข้าวนั้นมาแปรรูปและส่งออกไป ในตลาดที่มีความต้องการข้าวชนิดที่นำเข้ามา"

นายสุทัศน์ กล่าวด้วยว่า ผลจากการที่ฟิลิปปินส์ถูกพายุไต้ฝุ่นพัดถล่มในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ฟิลิปปินส์มีความต้องการข้าวเพิ่มขึ้น 2.85 แสนตัน ส่งผลให้โควตาข้าวที่ฟิลิปปินส์จะนำข้าวในปี 2552 เพิ่มเป็น 2.03 ล้านตัน จากเดิมที่เปิดโควตานำเข้าข้าวแล้ว 1.75 ล้านตัน ซึ่งตนมองว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับไทยที่จะเข้าร่วมการประมูลข้าวในล็อตนี้ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งดำเนินการทุกวิถีทาง เพื่อให้ไทยสามารถเข้าร่วมประมูลข้าวแบบจีทูจีในครั้งนี้ให้ได้ โดยการประมูลข้าวล็อตดังกล่าวจะเริ่มต้นในช่วงเดือนพ.ย. นี้

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ