นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือต่อนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติด้านการตลาด โดยขอให้ปรับเพิ่มปริมาณรับจำนำข้าวในโครงการรับจำนำข้าวเปลืองนาปรัง ปี 2552 เพิ่มอีก 1.5 ล้านตัน เป็น 4 ล้านตัน จากเดิมที่กำหนดเป้าหมายรับจำนำไว้ที่ 2.5 ล้านตัน

ทั้งนี้ ปริมาณข้าวที่เกษตรกรนำมาเข้าโครงการรับจำนำนาปรังใกล้เต็มปริมาณที่กำหนด ยังเหลือระยะเวลารับจำนำในโครงการอีก 3 เดือน คาดว่าเป้าหมาย 2.5 ล้านตัน จะไม่เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกรที่ยังเหลือผลผลิตข้าวในมืออยู่อีกมาก

"จะมีการเก็บเกี่ยวรอบหลังประมาณเดือนพ.ค.-มิ.ย. แต่ขณะนี้ปริมาณข้าวที่เข้าโครงการใกล้เต็มเกรงว่าเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวข้าวรอบหลัง จะถูกพ่อค้าคนกลางฉวยโอกาสกดราคาซื้อข้าว " นายประสิทธิ์ กล่าว

นางพรทิวา กล่าวว่า คณะอนุกรรมการฯได้พิจารณาข้อเสนอให้เพิ่มปริมาณรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง แต่ต้องดูรายละเอียดก่อน เพราะขณะนี้ยังมีโควตาที่ให้เกษตรกรนำข้าวมาเข้าโครงการได้อีก 4-5 แสนตัน หรือรับจำนำไปแล้วประมาณ 2 ล้านตัน ดังนั้น จึงต้องการให้มีปริมาณข้าวเข้าโครงการครบก่อน เพื่อพิจารณาความจำเป็น ในการขยายปริมาณรับจำนำเพิ่มเติมตามที่เกษตรกรร้องขอหรือไม่

“รัฐบาลประสบปัญหาด้านงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด จึงให้คงเป็นไปตามมติเดิมก่อน แต่จะมีการติดตามสถานการณ์ หากปริมาณข้าวเปลือกมีมากภาครัฐอาจจำเป็น ต้องขยายโครงการรับจำนำให้” นางพรทิวา กล่าวและว่า ส่วนการขอให้ขยายเป็นจำนำไม่เกิน 5 แสนบาทต่อรายจาก 3.5 แสนบาทนั้นไม่สามารถทำได้

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (29 เม.ย.) จะเสนอให้คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ พิจารณาการราคารับจำนำข้าวเหนียว ชนิดเมล็ดยาว 100% ในโครงการรับจำนำข้าวนาปรังเพิ่มอีก 1,000 บาท/ตัน จาก 9,000 บาท เป็น 10,000 บาท

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ