www.riceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

นายกฯจ่อเลิกระบบจำนำสินค้า ใช้วิธี"ประกันราคา"สกัดงบรั่ว


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมมอบนโยบายหัวหน้าส่วนราชการกระทรวงพาณิชย์ ก่อนประชุมมอบนโยบายผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ได้นำนายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมศูนย์ปฏิบัติการโสมสวลี (โอเปอเรชั่นรูม) ศูนย์รวบรวมการค้าการลงทุนในประเทศและต่างประเทศ

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ประชุมผ่านวีดิโอคอนเฟอเรนซ์มอบนโยบายในการดูแลราคาสินค้ากับหัวหน้าค้าภายในทั่วประเทศ ก่อนมอบวุฒิบัตรผู้สำเร็จหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านการค้าและการพาณิชย์ รุ่นที่ 1 จำนวน 37 คน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในการดูแลภาคการค้าภายในประเทศ รัฐบาลจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนนโยบายโครงการรับจำนำพืชผลทางการเกษตร ให้เป็นระบบค้ำประกัน ที่ผ่านมาโครงการแทรก-แซงการรับจำนำภาครัฐ ต้องเข้าไปรับซื้อสุดท้ายรัฐบาลต้องเสียงบประมาณค่อนข้างมาก จำเป็นต้องเปลี่ยนวิธีการรับประกัน

“รัฐบาลต้องการแก้ปัญหาสินค้าเกษตรให้หลุดจากวงจรการรับจำนำแบบเดิมๆ มาเป็นระบบประกันราคาตั้งแต่ต้นฤดูกาล จะนำร่องมันสำปะหลังและข้าวหอมมะลิก่อน โดยใช้วิธีการ ประกันราคาให้กับเกษตรกร หากเกษตรกรขายสินค้าได้ราคาต่ำกว่าราคาประกัน ก็มารับเงินชดเชยจากรัฐบาล” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายกฯ ไม่สนเอกชนฟ้องยัน ครม.ทำถูก

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป้าหมายการระบายสินค้าเกษตรต้องโปร่งใส ทำให้รัฐเสียหายน้อยที่สุด ครม.ต้องตัดสินใจนโยบายบนความถูกต้อง ส่วนกรณีที่เอกชนผู้ชนะการประมูลข้าว 17 ราย อาจฟ้องร้อง ครม.ที่ทำให้เกิดความเสียหายนั้นไม่รู้สึกกังวล ให้คณะทำงานเข้าไปดูแลแล้ว

“การประมูลข้าวไม่อยากให้ขาดทุนเหมือนกับการระบายสินค้าเกษตรปีที่ผ่านมา จะขายต่ำกว่าราคาตลาดก็ไม่เป็นไร แต่ต้องตอบคำถามได้ชัดเจน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

“พรทิวา”ยันไม่เลิกสัญญาเอกชนซื้อข้าว17 ราย

ด้านนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้แจ้งให้นางชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศแล้ว ให้ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการกำหนดยุทธศาสตร์การระบายสินค้าเกษตรทุกรายการ ทั้งข้าวโพด มันสำปะหลัง โดยเร่งหาข้อสรุประบายข้าวจากโครงการรับจำนำรัฐ 2 ล้านตันให้ผู้ส่งออก 17 รายที่ชนะการประมูลซึ่งได้ทำสัญญาซื้อ-ขายแล้ว ว่าจะดำเนินการอย่างไร ไม่กำหนดว่าคณะทำงานต้องได้ข้อสรุปเมื่อไหร่ หากทันการประชุม ครม. สัปดาห์หน้า ก็จะเสนอทันที

นางพรทิวา ย้ำว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ยังไม่ได้ยกเลิกสัญญาซื้อขายข้าวที่ทำไว้กับเอกชน 17 ราย แต่จะเป็นไปตามข้อสัญญาเดิมหรือไม่ ขึ้นกับผลการประชุมคณะทำงาน

“จะแจ้งอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศทราบอย่างเป็นทางการ ถึงการดูแลยุทธศาสตร์ระบายสินค้าเกษตร เบื้องต้นก็ให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ซึ่งน่าจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการค้าภายใน องค์การคลังสินค้า ทุกคนที่เกี่ยวข้องร่วมอยู่ด้วย” นางพรทิวา กล่าว

ส่วนเอกชนที่ได้ทำสัญญาแล้ว นางพรทิวา กล่าวว่า หากเอกชนรายใดต้องการเรียกร้องเกี่ยวกับการประมูลข้าวครั้งนี้ ต้องสอบถามไปยังอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เพราะในส่วนตนยอมรับว่าไม่ได้ทราบรายละเอียดการประมูลครั้งนี้ ยืนยันว่าไม่เคยคุยกับผู้ส่งออกรายใดทั้งสิ้น

อัดพาณิชย์ขายข้าว 2 ล้านตันไม่เคยเข้า ครม.

ขณะที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายก-รัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการล้มประมูลข้าว 2.2 ล้านตัน ว่าขอไม่ตอบคำถามประเด็นนี้ เพราะเกรงว่าจะนำไปสู่การสร้าง ความขัดแย้งทางการเมือง ส่วนการเดินหน้าขายข้าว 2.2 ล้านตันหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของกระทรวงพาณิชย์

“จะล้มหรือไม่ล้มประมูล มันต้องขึ้นอยู่กับกระทรวงพาณิชย์เอง เพราะเป็นผู้ตัดสินใจเปิดประมูล แต่ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ไม่เคยเสนอเรื่องให้ ครม.หรือแม้แต่ กขช.พิจารณาเลย แต่เท่าที่ผมได้เห็นตัวสัญญาที่ตรวจโดยสำนักงานอัยการสูงสุด ไม่มีข้อไหนที่บอกว่า หากผู้ขายไม่มีของให้ผู้ซื้อจะมีสิทธิฟ้องผู้ขาย”

การประชุมคณะกรรมการกำหนดแนวทางระบายสินค้าเกษตรที่มีนายสุเทพ เป็นประธานเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนพอใจที่กระทรวงพาณิชย์เห็นด้วยที่ให้เปลี่ยนหน่วยงานทำหน้าที่ระบายข้าวจากองค์การคลังสินค้า (อคส.) มาเป็นกรมการค้าต่างประเทศ

ประเดิมใช้วิธีประกันราคาข้าวโพด

นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แห่งชาติวันนี้ (29 พ.ค.) ที่ประชุมจะพิจารณาแนวทางการประกันราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แนวทางใหม่ เช่นเดียวกับที่ ครม.ได้อนุมัติแนวทางการประกันราคามันสำปะหลังก่อนหน้านี้ เมื่อที่ประชุมมีมติเห็นชอบว่าจะใช้แนวทางใหม่ อนุกรรมการจะไปพูดคุยกับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดว่าต้นทุนการผลิตอยู่ที่เท่าไร บวกกับกำไร 15-20% แล้วราคาเป็นเท่าไหร่ จากนั้นจึงกำหนดราคารับประกัน ล่วงหน้าก่อนเข้าสู่ฤดูกาลผลิต

ผู้ปลูกข้าวโพดที่จะเข้าร่วมโครงการจะต้องมาลงทะเบียนล่วงหน้า รวมถึงต้องแจ้งพื้นที่เพาะปลูก ปริมาณผลผลิตที่คาดว่าจะผลิตได้ จากนั้นจะมีการส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องภายใน 3-4 เดือน เมื่อถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยวหากเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการขายผลผลิตได้ในราคาต่ำกว่าราคาที่รัฐบาลประกาศ รัฐบาลจะสนับสนุนเงินเพิ่มให้เท่ากับที่ราคารับประกันไว้

“การประกันราคาข้าวโพดจะทำให้รัฐบาลไม่ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากเหมือนกับการรับจำนำสินค้าเกษตรในช่วงที่ผ่านมา และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาสินค้าเกษตรด้วย การขายข้าวในครั้งที่ผ่านมารัฐบาลต้องขาดทุนกว่า 1.6 หมื่นล้าน แต่มีเกษตรกรได้รับประโยชน์ไม่มาก”

เอกชนจี้พาณิชย์ถามหาความชัดเจน

นายสมบัติ เฉลิมวุฒินันท์ ประธานบริษัท เอเชียโกลเด้นไรซ์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทจะทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ อคส. เพื่อสอบถามความชัดเจนว่ารัฐจะดำเนินการ อย่างไรถึงการระบายข้าวสารล็อตที่เซ็นสัญญาไปแล้ว เพราะความไม่ชัดเจนทำให้ไม่รู้ว่าจะดำเนินธุรกิจอย่างไร ทั้งที่ได้ชำระเงินไว้แล้ว แต่ไม่สามารถขนข้าวออกไปขายได้ ความเสียหายเกิดขึ้นแน่นอน เนื่องจากมีบางส่วนได้รับคำสั่งซื้อแล้ว

แต่ส่งสินค้าไม่ได้ แม้เรือที่มารอรับข้าวมีจำนวนไม่ได้มากนักแต่ในด้านการหาตลาดอื่นขณะนี้ดำเนินการไม่ได้เลย
ทั้งนี้ทางบริษัททำสัญญาซื้อข้าวกับ อคส. ปริมาณ 5 แสนตัน ในราคาเฉลี่ยตันละ 1.45 หมื่นบาทซึ่งเป็นราคาที่เหมาะสมแล้วจึงไม่เห็นความจำเป็นว่าต้องมีการต่อรองราคาเพิ่มอีก เนื่องจาก ราคาดังกล่าวเมื่อบวกค่าใช้จ่ายต่างๆ จะมีต้นทุนที่ตันละ 1.65 หมื่นบาท เมื่อคิดเป็นราคาส่งออกเท่ากับตันละ 480 ดอลลาร์ ยากต่อการแข่งขันเพราะราคาเวียดนามขณะนี้ตันละ 400 ดอลลาร์

“ผมว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อปกป้องตัวเอง เพราะทำสัญญามาแล้ว 10 กว่าวันแต่ทำอะไรไม่ได้เลย หากทิ้งไว้เฉยๆ ถ้าอนุมัติให้ขนข้าวออกได้ ผมจะเจอปัญหาผิดเงื่อนไขเวลาการขนข้าวออกจากโกดัง ตอนนี้ถ้าจะยกเลิกก็ไม่ว่ากัน แต่คงต้องมาดูความเสียหายที่เกิดขึ้นว่ารัฐจะชดเชยอะไร”

“ซีพี”พร้อมเจรจาต่อรองซื้อข้าวรัฐเพิ่ม

นายสุเมธ เหล่าโมราพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.พี. อินเตอร์เทรด หนึ่งในผู้ชนะประมูลข้าวสต็อกรัฐบาล กล่าวว่า บริษัทยินดีที่จะเข้าไปเจรจากับกรมการค้าต่างประเทศ หากมีการเรียกผู้ชนะประมูลเข้าไปขอปรับราคาเพิ่มเติม แม้ว่าราคาข้าวที่บริษัทชนะประมูล จะเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับราคาตลาด ก็สามารถเพิ่มราคาขึ้นมาอีกเล็กน้อยได้

แต่หากจะมีการล้มประมูลข้าว ก็ไม่ขัดข้อง แต่ภาครัฐควรกำหนดเงื่อนไขประมูล (ทีโออาร์) ให้ชัดเจน ควรเปิดระบายทั้งในประเทศและส่งออกควบคู่กันไป รวมถึงการระบายผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าด้วยเพื่อให้เงื่อนไขเปิดกว้างมากขึ้น

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@riceexporters.or.th or reat@ksc.th.com


Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.