นายสมพงษ์ กิตติเรียงลาภ ประธาน บริษัท พงษ์ลาภ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ยกเลิกการประมูลข้าว 2.6 ล้านตัน ทำให้ผู้ส่งออกหลายรายที่ประมูลข้าวได้และจ่ายเงินเพื่อรับข้าวบางส่วนแล้ว ได้รับความเดือดร้อน ส่งผลกระทบต่อการส่งมอบข้าวให้กับลูกค้า ซึ่งทางบริษัทคงต้องแจ้งถึงเหตุผลที่ไม่สามารถส่งมอบข้าวให้กับลูกค้าในหลายประเทศ อาทิ แอฟริกา ฟิลิปปินส์ ได้ตามกำหนด เป็นเพราะรัฐบาลไม่ยอมส่งมอบข้าวให้กับบริษัทตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับองค์การคลังสินค้า (อคส.)

ล่าสุด ได้มอบหมายให้ทนายของบริษัท ทำหนังสือถึงองค์การคลังสินค้า (อคส.) แจ้งขอยกเลิกสัญญาซื้อข้าวที่บริษัททำไว้ เพื่อขอคืนเงินค้ำประกัน 5% ของมูลค่าข้าวที่ชนะการประมูลที่ยังไม่ได้รับมอบ ทั้งในส่วนที่ชำระเงินแล้ว แต่ได้รับข้าวไม่ครบตามจำนวน เนื่องจากถูก อคส.ชะลอรับมอบตามคำสั่งของนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ และข้าวที่ยังไม่ได้ชำระเงินปริมาณรวมเกือบ 2 แสนตัน โดยจะไม่มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับทาง อคส.

"ก่อนหน้านี้มีความพยายามของผู้ส่งออกข้าว ที่จะขอเข้าพบนายกรัฐมนตรี แต่นายกฯ ไม่มีเวลาว่างที่จะให้ผู้ส่งออกเข้าพบ ต้องรอกลับจากจีน ในวันที่ 27 มิ.ย.นี้เสียก่อน แต่การค้ารอไม่ได้ เราต้องการทราบว่าจะมีคำสั่งให้ขนข้าวที่ชำระเงินไปแล้วได้หรือไม่ หรือจะให้ยกเลิกและมีเหตุผลอะไร ทั้งที่ในวันที่ 15 มิ.ย.มีคำสั่งจากนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้รับมอบข้าวได้ ทำให้พงษ์ลาภยอมถอนคดีจากศาลปกครองในวันที่ 16 มิ.ย. แต่วันต่อมากลับมีคำสั่งใหม่ โดยอ้างจากบัญชานายกฯให้ยกเลิกสัญญาและชะลอการรับมอบข้าว ทั้งที่เราตั้งใจจะรับมอบเฉพาะส่วนที่ชำระเงินไปแล้ว ไม่ได้มาก ส่วนที่เหลือหากรัฐบาลบอกว่าขาดทุนก็เปิดประมูลใหม่"

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้บริษัทต้องหาซื้อข้าวจากโรงสีเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าอย่างเร่งด่วนจำนวนหนึ่ง ซึ่งทางผู้ส่งออกรายอื่นๆ คงดำเนินการในลักษณะเดียวกันนี้ จึงเป็นปัจจัยที่ดึงให้ราคาข้าวเปลือกในตลาดปรับตัวสูงขึ้น โดยขณะนี้ราคาข้าวขาว 5% อยู่ที่ตันละ 17,500 บาท สูงกว่าราคาที่ประมูลจากรัฐบาลที่ 15,000-15,500 บาท ซึ่งข้าวส่วนนี้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปรับปรุง เพราะคุณภาพดีกว่าข้าวรัฐบาล ที่อาจจะต้องจ่ายค่าปรับปรุงเพิ่มอีกตันละ 1,000 บาท

หากรัฐบาลจะบริหารสต๊อกข้าวที่มีอยู่เพียง 4-5 ล้านตัน ถือว่าไม่มาก สามารถปล่อยระบายลอตละ 2-3 แสนตันได้ ให้ชำระเงินภายในเดือนเดียว และขนออกภายใน 60 วัน หลังจากนั้นให้ผู้ส่งออกรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่การที่ปล่อยให้ประมูลอย่างนี้รัฐบาลอาจจะขาดทุนไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท เพราะยังจะส่งผลเสียลุกลามบานปลายถึงผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่ที่จะออกสู่ตลาดด้วย

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ