นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์กำลังพิจารณาที่จะระบายข้าวสารในสต็อกรัฐบาล หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้อนุมัติยุทธศาสตร์การระบายข้าวมาแล้ว โดยเห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะภาวะการค้าและราคาข้าวอยู่ในเกณฑ์ที่ดี หลายๆ ประเทศมีความต้องการซื้อข้าวเพิ่มขึ้น ขณะที่คู่แข่ง เช่น เวียดนาม ผลผลิตยังไม่ออกสู่ตลาดและได้ชะลอการส่งออกข้าว อินเดียประกาศนำเข้าข้าว และมีแนวโน้มว่าในช่วงต้นปี 2553 อาจจะเกิดวิกฤติอาหารขึ้นอีกเช่นเดียวกับปี 2551

“หากไม่ระบายช่วงนี้ ไทยอาจจะเสียโอกาสในการขายข้าวได้ราคาดี เพราะราคาข้าวในตลาดมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงต้องใช้จังหวะนี้ขายข้าวในสต็อกรัฐบาลออกไปบ้าง โดยกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางที่เหมาะสม ซึ่งจะมีหลายๆ รูปแบบ ทั้งการเปิดประมูล การขายจีทูจี และขายในตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า แต่จะไม่ขายครั้งละมากๆ เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคา และลดค่าใช้จ่ายในการเช่าโกดังสำหรับข้าว 6 ล้านตัน ตันละ 36 บาทต่อเดือน รวมค่าใช้จ่ายเดือนละ 216 ล้านบาท" นางพรทิวา กล่าว

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ขณะนี้หลายประเทศมีความต้องการซื้อข้าว โดยฟิลิปปินส์ อิรัก ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ได้เปิดประมูลเพื่อซื้อข้าวมาแล้วหลายครั้ง และประเทศอื่นๆ ได้แสดงความสนใจซื้อข้าวเพื่อเก็บสต็อกมากขึ้น ส่งผลทำให้ราคาข้าวในตลาดโลก ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ฟิลิปปินส์ที่มีการเปิดประมูลและตกลงซื้อข้าวในราคาที่สูง

ทางด้านประเทศผู้ส่งออก อย่างเวียดนาม ได้กำหนดมาตรการให้ผู้ส่งออกทำสัญญาขายข้าวล่วงหน้า เพื่อส่งมอบระยะยาว แทนการส่งมอบระยะสั้น เพื่อรอผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่ ที่จะออกในเดือนมี.ค. 2553 และชะลอการทำสัญญาขายข้าวใหม่ เพื่อส่งมอบข้าวตามสัญญาเก่าให้หมด ส่วนอินเดียกำลังพิจารณานำเข้าข้าวช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้า

จากสถานการณ์ข้างต้น ได้ส่งผลทำให้ราคาข้าวไทยส่วนใหญ่ในเดือนธ.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยข้าวเปลือกเจ้านาปีและข้าวเปลือกเหนียว ราคาเฉลี่ยตันละ 8,908 บาท และ 9,368 บาท สูงกว่าราคาเฉลี่ยตันละ 8,323 บาท และ 8,361 บาท หรือเพิ่มขึ้น 7% และ 12% ในเดือนพ.ย. ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาเฉลี่ยตันละ 13,802 บาท ต่ำกว่าเดือนก่อนซึ่งมีราคาเฉลี่ยตันละ 15,546 บาท หรือลดลง 11.2% เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดมาก แต่เมื่อเทียบกับปีก่อน ราคาเพิ่มขึ้น 15.9% ทั้งนี้คาดว่าในเดือนธ.ค. จะส่งออกข้าวได้ 6.5 แสนตัน และทั้งปี 8.5 ล้านตันเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ