นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวระหว่างการตรวจโรงสีข้าวในจังหวัดสุพรรณบุรีว่า หลังจากเปิดรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา และรัฐบาลได้ขยับเพิ่มโควตาจาก 2.5 ล้านตัน เป็น 4 ล้านตัน ซึ่งปกติจะรับจำนำเพียงร้อยละ 30 ของผลิตทั้งหมด 7 ล้านตัน แต่ขณะนี้ได้รับจำนำเกินร้อยละ 50 ของผลผลิตแล้ว คงไม่สามารถรับจำนำเพิ่มได้อีก เพราะปัจจุบันรับจำนำข้าวได้แล้วประมาณ 3.6 ล้านตัน คาดว่า สัปดาห์หน้าคงจะเต็มโควตาและต้องหยุดรับจำนำ จึงได้กำชับพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศอย่ารับจำนำข้าวเปลือกให้เกินโควตา

ส่วนพื้นที่ใดที่ยังเก็บเกี่ยวไม่เสร็จและได้รับโควตาไม่สอดคล้องกับพื้นที่ก็จะพยายามนำโควตาส่วนกลางที่เหลืออยู่ไปดูแลให้เป็นธรรม
สำหรับการรับจำนำข้าวเปลือกเจ้าอยู่ที่ราคา 11,800 บาทต่อตัน ข้าวหอมปทุม 12,000 บาทต่อตัน ข้าวเหนียวเปลือกเม็ดสั้น 9,000 บาทต่อตัน ข้าวเหนียวเปลือกเม็ดยาว 10,000 บาทต่อตัน ในขณะที่ราคาตลาดของข้าวเปลือกเจ้าในภาคเหนือจะอยู่ 8,000-15,000 บาทต่อตัน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8,500-16,000 บาทต่อตัน ภาคกลางข้าวเปลือกเจ้าราคา 8,400-11,000 บาทต่อตัน และในระหว่างการตรวจสตอกข้าวได้มีเกษตรกรมายื่นหนังสือต่อกรณีที่รัฐบาลจะทยอยยกเลิกการรับจำนำข้าวในปีต่อไป โดยขอให้รัฐบาลเปิดรับจำนำข้าวเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

นายยรรยง ยืนยันว่า เนื่องจากรัฐบาลมีภาระต้องดูแลสินค้าเกษตรหลายรายการ และเพื่อลดภาระงบประมาณจึงมีแนวทางใช้ระบบประกันราคาสินค้าแทน รวมกับการขายข้าวในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าและใช้แนวทางอื่นมาดูแลเพิ่มเติม โดยจะพยายามดูแลราคาสินค้าทุกประเภทไม่ให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน

นายมนัส ห้วยหงษ์ทอง นายกสมาคมโรงสีข้าวสุพรรณบุรี กล่าวว่า ปกติรัฐบาลจะรับจำนำข้าวเปลือกประมาณร้อยละ 30 ของการผลิตทั้งหมดประมาณ 30 ล้านตัน หรือประมาณ 10 ล้านตัน หากหันมาใช้แนวทางการประกันราคาล่วงหน้ารัฐบาลจะต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมหรือไม่ เมื่อต้องประกันราคาให้กับทุกคนที่ไปทำสัญญา และหากจะใช้ระบบประกันราคารัฐบาลจะต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกรให้มีความชัดเจน ซึ่งไม่ทราบว่า จะมีความพร้อมในการจัดทำระบบทะเบียนหรือไม่

ส่วนปัญหาการระบายข้าวในขณะนี้เห็นว่า ควรยกเลิกการประมูลของ 17 รายที่ได้ทำสัญญากับองค์การคลังสินค้าเอาไว้แล้ว แม้รัฐบาลอาจต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับผู้ถูกยกเลิกคงไม่น่าเป็นห่วง เพราะจะทำให้เกิดเป็นบรรทัดฐานต่อไป เนื่องจากเห็นว่าโครงการประมูลในครั้งที่ผ่านมาไม่โปร่งใส เนื่องจากปล่อยให้เสนอราคาต่ำแล้วเรียกเอกชนมาเจรจา

นายเดชา พรบำรุง เจ้าของโรงสีเดชาเจริญกิจ กล่าวว่า หากรัฐบาลจะยกเลิกการรับจำนำข้าวเปลือกควรใช้แนวทางค้ำประกันราคาส่งออกเหมือนกับต่างประเทศเพื่อพยุงหรือดูแลราคาส่งออก ซึ่งจะสะท้อนราคามายังชาวนาในประเทศต่อไป ดังนั้น จะต้องพิจารณาทั้งสองด้านให้เหมาะสมทั้งเรื่องราคาในประเทศที่รับซื้อจากเกษตรกรกับราคาในต่างประเทศที่ต้องส่งออกไปยังตลาดโลก สำหรับการปลูกข้าวนาปรังในจังหวัดสุพรรณบุรีเกษตรกรจะปลูกสองรอบผลผลิตประมาณ 1.39 ล้านตัน มีข้าวออกสู่ตลาดตลอดทั้งปี โดยมีโรงสีเปิดรับจำนำ 76 แห่ง รับจำนำล่าสุดเมื่อวันที่ 28 พ.ค. จำนวน 6 แสนตัน

ที่มา สำนักข่าวไทย