www.riceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

แฉตัวการโขกราคาฟันกำไรข้าวถุง


แหล่งข่าวในวงการค้าข้าว เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" กรณีที่ผู้ประกอบการข้าวถุงเตรียมปรับขึ้นราคาจำหน่ายข้าวถุงว่า ไม่มีความจำเป็นที่ผู้ประกอบการค้าข้าวถุงจะต้องปรับขึ้นราคาแต่อย่างใด เพราะที่ผ่านมานับตั้งแต่สมัยนายไชยา สะสมทรัพย์ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ระบายข้าวสารออกจากสต๊อกเป็นจำนวนมากถึง 2.7 ล้านตัน ในจำนวนนี้ผู้ที่ชนะประมูล มีทั้งระบายออกต่างประเทศ ขายให้กับโรงสีในประเทศ เพื่อนำมาเวียนเทียนส่งมอบเข้าโกดังกลางในโครงการรับจำนำอีกครั้งหนึ่งและอีกส่วนหนึ่งนำมาผลิตเป็นข้าวถุงจำหน่ายในประเทศ

โดยข้าวที่ประมูลขายออกมาสมัยนายไชยานั้น ราคาข้าวหอมมะลิเพียงตันละ 23,000-24,000 บาท หากนำมาปรับปรุงคุณภาพและบรรจุถุงจำหน่าย ค่าใช้จ่ายเต็มที่ตกกก.ละ 25 บาท หรือถุงละ 125 บาท (ขนาดบรรจุถุง 5กก.) แต่เมื่อข้าวมาถึงผู้ค้าข้าวถุง ตั้งราคาหน้าโรงสีขายถุงละ 155 บาท ซึ่งก็สูงพอสมควรแล้ว ราคาโมเดิร์นเทรดกลับสูงยิ่งถึงถุงละ 200-250 บาท เท่ากับฟันกำไรเท่าตัว ที่สำคัญข้าวหอมมะลิที่จำหน่ายให้กับคนไทยบริโภคจะไม่ใช่ข้าวหอมมะลิ 100% แต่เป็นข้าวหอมมะลิผสมข้าวปทุมธานี โดยข้าวปทุมธานีประมูลซื้อกันที่ตันละ 16,000 บาท หรือกก.ละ 16 บาทเท่านั้น ดังนั้นเมื่อนำข้าวปทุมธานีไปผสมต้นทุนจะไม่เกินถุงละ 150 บาทอย่างแน่นอน

"ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งผู้ค้าข้าวถุงส่วนใหญ่ใช้ข้าวที่ประมูลจากคลังรัฐบาลมาปรับปรุงเกือบ100 % เพราะฉะนั้น 6 เดือนที่ผ่านมา ผู้ค้าข้าวถุงโกยกำไรกันไปมหาศาลแล้ว"แหล่งข่าวกล่าวและว่า

จริงอยู่ที่ขณะนี้เวลาผ่านไป 6 เดือนข้าวที่ประมูลออกมา หากนำส่งออกต่างประเทศบ้าง ขายให้กับโรงสีเพื่อเวียนเทียนเข้าโกดังกลางบ้าง นำมาบรรจุถุงหรือขายเป็นข้าวถังในประเทศบ้าง อาจจะหมดสต๊อกแล้ว และผู้ค้าไม่มีความจำเป็นต้องปรับขึ้นราคา เพราะว่าราคาข้าวหอมมะลิในท้องตลาดขณะนี้อยู่ที่ตันละ 30,000 บาท หรือกก.ละ 30 บาท บวกค่าแรงงานค่าบรรจุถุงรวมแล้วก็ตกกก.ละ 155 บาทเท่านั้น ราคาในโมเดิร์นเทรดถุงละ 200-250 บาท แม้ว่ากำไรจะลดลงไปจากช่วงที่ใช้ข้าวสต๊อกรัฐบาล แต่ยังเป็นราคาที่ผู้ค้ามีกำไรอยู่

ส่วนปัญหาที่ผู้ค้าเมื่อส่งข้าวให้กับทางห้างจะมีค่าวาง ค่าการตลาด ค่าจัดโปรโมชันส่งเสริมการขาย บวกกำไร และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทำให้ผู้ค้าต้องปรับราคาขายเพิ่มขึ้น 10-20% ปัญหานี้ผู้ประกอบการข้าวถุงควรจะเจรจากับทางห้างเองไม่ใช่โยนภาระให้กับผู้บริโภค

ด้านแหล่งข่าวในวงการโรงสีข้าว กล่าวว่าปัจจุบันผู้ประกอบการโรงสีข้าวหลายโรง ได้ผลิตข้าวสารบรรจุถุงจำหน่าย รวมถึงการบรรจุกระสอบขนาด 100 กก. จำหน่ายผ่านยี่ปั๊ว ซาปั๊ว หากกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์จะจัดจุดจำหน่ายให้โรงสีนำข้าวสารที่ผลิตโดยตรงจากโรงสีจำหน่ายถึงมือผู้บริโภคโดยตรงจะช่วยลดค่าครองชีพให้กับผู้บริโภคและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้กับโรงสี เท่ากับว่าจะมีผู้ได้ประโยชน์ร่วมหลายฝ่าย ขณะที่การขายผ่านโมเดิร์นเทรดนอกจากผู้ค้าจะได้รับชำระเงินล่าช้าแล้วผู้บริโภคยังต้องบริโภคข้าวสารราคาแพงด้วย โดยที่มีผู้ได้ประโยชน์ฝ่ายเดียวคือโมเดิร์นเทรด

ที่สำคัญสิ้นเดือนกรกฎาคม ศกนี้จะสิ้นสุดโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี มีแนวโน้มที่ราคาข้าวจะอ่อนตัวลง เพราะข้าวหอมปทุมธานีจะมีแหล่งปลูกใหญ่อยู่ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี อ่างทอง สิงห์บุรีและชัยนาท หากข้าวหอมปทุมธานีอ่อนตัวลง เมื่อนำไปผสมกับข้าวหอมมะลิยิ่งทำให้ต้นทุนข้าวหอมมะลิบรรจุถุงราคาลดลงด้วย จึงไม่มีความจำเป็นใดๆที่ข้าวถุงต้องปรับขึ้นราคา"

เรื่องนี้นายสมฤกษ์ ตั้งพิรุฬห์ธรรม นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย เปิดเผยว่ากรณีข้าวหอมมะลิบรรจุถุง กก.ละ 40 บาท ส่วนข้าวขาว 30 บาทต่อกก.เป็นเพราะช่วงปลายฤดูที่ข้าวสารโดยเฉพาะข้าวหอมมะลิจะเหลือในตลาดน้อยมาก ประกอบกับข้าวที่ประมูลนั้นยังไม่ถึงมือเอกชนจึงทำให้ผู้ส่งออกและผู้ผลิตข้าวถุงต้องแย่งกันซื้อจนต้นทุนผลิตข้าวถุงสูงขึ้นมาก

นอกจากนั้นทางห้างค้าปลีกได้ขอเพิ่มกำไรจากการขายข้าวถุง 4-6% เป็น 10% ทั้งๆ ที่ยังรับซื้อข้าวถุงจากผู้ผลิตในราคาเดิม ทำให้ราคาขายปลีกข้าวถุงเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ ขณะที่ผู้ผลิตไม่ได้รับส่วนแบ่งด้วยจึงทำให้ราคาขายปลีกข้าวถุงเพิ่มขึ้นถึงถุงละ 20 บาท แต่ขณะนี้ได้รับแจ้งจากกรมการค้าภายในช่วยเจรจากับห้างค้าปลีกปรับลดลงเหลือประมาณ 4-6%เท่าเดิม จะทำให้ข้าวราคาลดลง ประกอบกับประมาณเดือนสิงหาคมนี้ข้าวนาปรังจะเก็บเกี่ยวแล้ว จะทำให้ราคาข้าวในท้องตลาดสู่สภาวะปกติ

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@riceexporters.or.th


Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.