นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า คณะอนุกรรมการกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงข้าว ได้กำหนดราคาอ้างอิงข้าว ที่จะใช้ชดเชยรายได้ให้กับเกษตรกรสำหรับวันที่ 1-15มี.ค. โดยข้าวเปลือกเจ้า 5% ราคาอ้างอิงตันละ 9,074 บาท ชดเชย 926 บาท จากราคาประกัน 10,000 บาท ข้าวปทุมธานี ราคาอ้างอิงตันละ 11,313 บาท ไม่ต้องชดเชยเพราะสูงกว่าราคาประกันที่กำหนดไว้ 11,000 บาท และข้าวเหนียว ราคาอ้างอิงตันละ 10,665 บาท ไม่ต้องชดเชยเพราะสูงว่าราคาประกันที่กำหนดไว้ 9,500 บาท
นอกจากนี้ การที่รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์เปิดจุดตั้งโต๊ะซื้อข้าว 8 จังหวัด เชื่อว่าจะแก้ปัญหาให้ชาวนาได้แน่นอน โดยจะมีทางเลือกเพิ่มขึ้นในการนำข้าวมาขายให้รัฐบาล
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เห็นชอบในการไม่ระบายข้าว 5 แสนตัน ตามที่กระทรวงพาณิชย์ไปต่อรองราคา และภายหลังจากนี้ 3-4 เดือน กระทรวงพาณิชย์จะไม่เปิดประมูลข้าวเป็นการทั่วไป ตามนโยบายของนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นช่วงที่ข้าวฤดูกาลใหม่จะออกสู่ตลาด
“อีก 2-3 เดือนต่อจากนี้ ข้าวฤดูกาลใหม่จะออกสู่ตลาดแล้ว รัฐคงไม่เปิดประมูล เพราะไม่อยากให้ราคาข้าวในตลาดตกต่ำ ผู้ส่งออกก็ต้องไปหาซื้อในตลาดเอาเอง ซึ่งการไล่ซื้อข้าวแบบนี้ จะทำให้ราคาข้าวในตลาดสูงขึ้นได้ ส่วนข้าวในสต็อกรัฐก็ยังเก็บไว้ได้ ไม่น่ามีปัญหาอะไร” นางพรทิวา กล่าว
อย่างไรก็ตาม รัฐยังมีช่องทางอื่นที่จะเปิดขายข้าวในสต็อกได้อีก เช่น เปิดขายในตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (เอเฟท) หรือเปิดโอกาสให้ผู้ส่งออกที่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ ยื่นขอซื้อเข้ามายังกระทรวงพาณิชย์ได้ ส่วนข้าวที่รัฐบาลตั้งโต๊ะรับซื้อจากเกษตรกร เพื่อแก้ปัญหาราคาตกต่ำนั้น จะนำมาขายในเอเฟทภายใน 30 วัน
ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีที่มีการปล่อยข่าวว่ารัฐบาลจะเปิดขายข้าวในสต็อกจำนวน 2 ล้านตัน ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีนั้น นางพรทิวา กล่าวว่า ต้องดำเนินการอย่างแน่นอน แต่ยังไม่รู้ว่า จะหาตัวคนปล่อยข่าวได้หรือไม่ น่าจะเป็นเรื่องยากที่จะหาตัวคนปล่อยข่าวให้ได้
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
|