นางสาวชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยสถานการณ์ข้าวเปลือกและข้าวสารในเดือนมีนาคม 2553 ระหว่างวันที่ 22 – 26 มีนาคม โดยคาดว่า ผลผลิตข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2553 จะมีปริมาณ 8.386 ล้านตันข้าวเปลือก น้อยกว่าปีที่ผ่านมา จำนวน 0.029 ล้านตันข้าวเปลือก โดยผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือน เมษายน-พฤษภาคม คิดเป็นร้อยละ 48 หรือประมาณ 4.025 ล้านตันข้าวเปลือก และในเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม จะออกสู่ตลาดคิดเป็นร้อยละ 30 หรือประมาณ 2.510 ล้านตันข้าวเปลือก

ส่วนภาวะราคาข้าวเปลือกและข้าวสารสัปดาห์นี้ ภาวะราคาข้าวเปลือกในตลาดทั่วไปมีแนวโน้มอ่อนตัวลงเล็กน้อย โดยเฉพาะข้าวเปลือกเจ้าและข้าวเปลือกปทุมธานี เนื่องจากผลผลิตข้าวเปลือกนาปรังออกสู่ตลาดมากขึ้น ขณะที่ความต้องการของตลาดยังมีน้อยและประเทศเวียดนามซึ่งเป็นคู่แข่งขันทางการค้าของไทยมีผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น จึงส่งผลต่อราคาข้าวในขณะนี้ โดยข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาตันละ 13,500-14,300 บาท ข้าวเปลือกปทุมธานี ราคาตันละ 10,500-11,000 บาท ข้าวเปลือกเจ้าราคาตันละ 8,500-9,200 บาท

ส่วนราคาข้าวสารมีแนวโน้มปรับตัวลดลง เนื่องจากการส่งออกในระยะนี้ชะลอตัวและผู้ประกอบการโรงสีได้เร่งระบายข้าวในสต็อกออกสู่ตลาด โดยข้าวสารหอมมะลิ 100 เปอร์เซ็นต์ ชั้น 2 ราคาอยู่ที่กระสอบ (100 กก.) ละ 2,910-2,920 บาท ข้าวปทุมธานี ราคากระสอบละ 2,200 – 2,210 บาท ข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ ราคากระสอบละ 1,440 – 1,460 บาท ในด้านการส่งออกข้าว มีการส่งออกจำนวน 6.169 แสนตัน ซึ่งน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ส่งออกได้ 6.378 แสนตัน หรือลดลง 0.209 แสนตัน

สำหรับแนวโน้มราคาข้าวเปลือกเจ้าและข้าวสารในตลาดทั่วไปจะยังคงทรงตัวในระยะนี้ เนื่องจากผลผลิตข้าวเปลือกนาปรังออกสู่ตลาดมากขึ้น ขณะที่ความต้องการซื้อชะลอตัว แต่รัฐบาล จะเร่งดำเนินมาตรการรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรตามเกณฑ์กลางอ้างอิง ซึ่งขณะนี้ ได้มีการเปิดจุดรับซื้อแล้ว 83 แห่ง ในพื้นที่ 22 จังหวัด และมีเกษตรกรนำข้าวมาขายให้รัฐบาลแล้วกว่า 27,000 ตัน

ที่มา สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์