แหล่งข่าวในทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่าจากการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.)เห็นชอบให้เร่งรัดระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลที่มีอยู่ประมาณ 5.6 ล้านตัน โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.)ได้มอบหมายให้ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เป็นผู้ดำเนินการเรื่องนี้ หลังจากที่ดร.ไตรรงค์ ได้รับมอบหมายแล้วนั้นได้มีการหารือกับทีมที่ปรึกษามาเป็นระยะ เกี่ยวกับกระบวนการระบายข้าว

โดยได้มีข้อสรุปหลักการคือตั้งคณะกรรมการกำหนดเกณฑ์และราคาที่จะระบาย  ตั้งคณะกรรมการตรวจสต๊อก หลังจากนั้นนำเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนดเสนอกขช.เสนอครม.เห็นชอบ เมื่อกขช.และครม.เห็นชอบแล้วให้กระทรวงพาณิชย์นำไปดำเนินการตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยกระทรวงพาณิชย์สามารถอนุมัติขายได้เลยไม่ต้องผ่านกขช.และครม.อีกครั้ง แต่ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ต้องดำเนินการตามเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนดเท่านั้น หากไม่ดำเนินการตามคณะกรรมการมีสิทธิ์คัดค้านได้

แหล่งข่าวกล่าวว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาดร.ไตรรงค์ ได้หารือกับทีมที่ปรึกษาอีกครั้งซึ่งล้วนเป็นบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องข้าว อาทิ นายนิพนธ์ วงษ์ตระหง่าน นายอำพน กิตติอำพน นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ นายปราโมทย์ วานิชานนท์  ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ และคาดว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการกำหนดเกณฑ์ระบายข้าว และคณะกรรมการตรวจสต๊อกข้าวให้เร็วที่สุด โดยคณะกรรมการนอกจากประกอบด้วยที่ปรึกษาทั้ง 5 ท่านแล้วยังมีอีก 2-3 ท่าน ซึ่งจะเป็นบุคคลที่อยู่ในแวดวงเรื่องข้าวทั้งหมด นอกจากนี้ดร.ไตรรงค์ ไม่เห็นด้วยกับรายชื่อคณะกรรมการตรวจสอบ

สต๊อกข้าวตามที่นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เสนอมาและได้ส่งกลับไปยังกระทรวงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว โดยรองนายกรัฐมนตรีอาจตั้งคณะกรรมการตรวจสต๊อกข้าวชุดใหม่ขึ้นมา เพราะคณะกรรมการชุดที่นางพรทิวา เสนอมานั้นมีชื่อผู้ที่เคยเสนอให้มีการกำหนดค่าเสื่อมสภาพข้าว ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีไม่เห็นด้วยกับการกำหนดค่าเสื่อมสภาพข้าว จึงตีกลับและเตรียมตั้งชุดใหม่ขึ้นมา

"การระบายสต๊อกข้าวครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก แม้ว่าพรรคภูมิใจไทยจะกำกับกระทรวงพาณิชย์และเคยเป็นผู้มีอำนาจระบายข้าวเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ครั้งนี้แม้ว่ากระทรวงพาณิชย์ยังเป็นหน่วยงานดำเนินการระบายอยู่ แต่ทุกขั้นตอนต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนดเกณฑ์ระบายฯกำหนด ซึ่งคณะกรรมการกำหนดเกณฑ์ระบายฯ รวมถึงการตรวจสต๊อกกำกับโดยพรรคประชาธิปัตย์"

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ