นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้ ตนจะเรียกประชุม คณะกรรมการตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (เอเฟท)  เพื่อพิจารณานำข้าวสารในสตอกรัฐบาล ประกอบด้วย ข้าวเจ้า 5%  ข้าวหอมมะลิ และข้าวเหนียว จำนวนรวม 3 แสนตัน ออกประมูลขายผ่านตลาดเอเฟท ทั้งนี้ เพื่อผ่อนคลายความตึงตัวของราคาในตลาด โดยคาดว่าจะเปิดประมูลได้ภายในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นจะประมูลขายผ่านเอเฟทไปก่อน เพราะเป็นวิธีที่จะไม่ถูกสังคมตั้งคำถามเรื่องของความโปร่งใส และยังมีข้อดี เพราะการขายผ่านเอเฟท จะเป็นการทยอยส่งมอบข้าว  ไม่ได้เทขายครั้งเดียว หากขาย 3 แสนตัน คาดว่าจะทยอยส่งมอบ 3 เดือน เฉลี่ยเดือนละ 1 แสนตัน ทำให้ผลผลิตข้าวออกสู่ตลาดครั้งละไม่มาก ไม่ส่งผลทำให้ราคาตลาดตกลงมากนัก และจะไม่กระทบกับผลผลิตข้าวฤดูใหม่ที่จะทยอยออกในช่วง ปลายเดือน มี.ค.และ เม.ย. อีกด้วย

ส่วนความคืบหน้าในการสอบหาต้นตอปล่อยข่าวทุบราคาข้าวตามคำสั่งของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่า นายกฯ มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ หาข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว ซึ่งตนได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด โดยมีตนเป็นประธาน เบื้องต้นเตรียมจะประชุมคณะทำงาน เพื่อวางแนวทางการสอบข้อเท็จจริง เช่น การเร่งรวบรวมการนำเสนอข่าวดังกล่าวว่ามีการนำเสนอผ่านทางช่องทางไหนบ้าง เมื่อใด รวมทั้งพิจารณาว่า ผลจากการปล่อยข่าวจะมีกลุ่มใดได้ผลประโยชน์บ้าง ทั้งนี้ คาดว่า จะสามารถเสนอผลการสอบให้นายกฯ พิจารณาได้ภายใน 2 - 3 สัปดาห์

นอกจากนี้ จะเสนอให้รัฐบาลจัดระบบเพื่อบูรณาการข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตและการเพาะปลูกข้าวของไทย เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ซื้อ ผู้ขายในต่างประเทศมักใช้ข้อมูลของกระทรวงเกษตรสหรัฐเป็นข้อมูลพื้นฐานในการตัดสินใจซื้อขายข้าว  ซึ่งตนเห็นว่า  เป็นข้อมูลที่มีความคลาดเคลื่อน เพราะเป็นข้อมูลรายปีที่ไม่ทันสมัย บางครั้งข้อมูลที่ผิดพลาดและไม่ทันสมัยส่งผลเสียต่อราคาข้าวของไทย

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทย ต้องบูรณาการข้อมูลข้าวใหม่ โดยประเทศไทย จะต้องเป็นหน่วยงานศูนย์กลางที่เป็นผู้จัดทำและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการค้าข้าวของโลกแทนกระทรวงเกษตรของสหรัฐ  เนื่องจากไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกรายใหญ่ที่สุด  อาทิ ข้อมูลด้านการผลิต  ความต้องการบริโภค รวมไปถึงปริมาณผลผลิตข้าวของโลก โดยอาจจัดทำเป็นข้อมูลรายเดือน เพื่อให้มีความทันสมัยสอดคล้องกับสถานการณ์ เชื่อว่าหากมีการเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องจะช่วยลดผลกระทบด้านราคาข้าวให้แก่ประเทศไทยได้  โดยเร็ว ๆ นี้ ตนจะหาหรือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อจัดทำระบบข้อมูลดังกล่าวโดยเร็ว

ที่มา สำนักข่าวไทย