นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติด้านการผลิต วานนี้ (2 มิ.ย.) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบโครงการจัดระบบปลูกข้าวใหม่ เริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่เดือนพ.ค.-มิ.ย. 2554 รวมเวลา 3 ปี (ปี 2554-2556) ใช้งบประมาณรวม 2,180 ล้านบาท โดยเน้นมาตรการบริหารจัดการน้ำให้มีระเบียบ หรือข้อบังคับจัดสรรน้ำ ปลูกข้าวตามช่วงเวลาของแผนปลูกข้าว
ทั้งนี้การบริหารจัดการแผนดำเนินงาน กระทรวงเกษตรฯ จะตั้งคณะกรรมการ 1 ชุดกำหนดพื้นที่ปลูก เป็นรายโครงการชลประทาน และควบคุมการระบายน้ำจากแหล่งน้ำต้นทุนและใช้สิทธิประกันรายได้สินค้าเกษตร หากเกษตรกรที่ปลูกข้าวไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือเวลาที่กระทรวงเกษตรฯกำหนด จะไม่ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการประกันรายได้สินค้าเกษตร
"เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ภาครัฐจะมีมาตรการจูงใจ เช่น สนับสนุนเมล็ดพันธุ์พืชหลังนา พืชปุ๋ยสด จัดหาตลาดรองรับผลผลิตพืชหลังนา ให้ทำตลาดตามข้อตกลง สร้างตลาดท้องถิ่น และเชื่อมโยงตลาดระหว่างผู้ซื้อกับผู้ผลิตด้วย"
นายธีระ กล่าวอีกว่า การปรับระบบปลูกข้าวจะทำให้เกษตรกรและประเทศลดความเสี่ยงภาวะขาดแคลนน้ำและลดปริมาณใช้น้ำปลูกข้าวฤดูละ 1,200 - ของชาวนา และช่วยเพิ่มขีดความสามารถส่งออกข้าวด้วย โดยกระทรวงเกษตรฯจะเสนอคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) พิจารณาก่อนเสนอครม.
นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่า ปัจจุบันเกษตรกรทำนาปีละ 3 ครั้ง ทำให้สภาพดินเสื่อมเสีย ต้องใช้ปุ๋ยมากขึ้น ขณะที่ผลผลิตลดลง เพราะเสี่ยงต่อการระบาดของโรคแมลง และข้าว วัชพืชที่กำจัดยาก ดังนั้นสมาคมจึงสนับสนุนให้ทำนาปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้ผลผลิตมีคุณภาพ แต่รัฐบาลต้องมีแนวทางส่งเสริมรายได้ช่วงชาวนาพักปลูกข้าว เพื่อทำให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
|