นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ และองค์การคลังสินค้า(อคส.) เร่งตรวจสอบพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วม โดยเฉพาะในโกดังเก็บข้าวสารของรัฐบาล เพื่อให้ทราบข้อมูลที่ชัดเจนว่าปริมาณข้าวได้รับความเสียหายจากปัญหาน้ำท่วมมากน้อยแค่ไหน แต่ในเบื้องต้นโกดังเก็บข้าวสารของ อคส. ที่ถูกน้ำท่วมมี 2 จังหวัด รวมแล้วกว่าแสนกระสอบ อยู่ใน จ.พระนครศรีอยุธยา กว่า 6 หมื่นกระสอบ ซึ่งได้ขายให้แก่เอกชนไปก่อนหน้าแล้ว และอยู่ระหว่างการขนย้าย และอีกส่วนเป็นโกดังเก็บข้าวใน จ.ชลบุรี จำนวนกว่า 3 หมื่นกระสอบ ซึ่งเป็นข้าวที่จะนำไปขายผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า

ส่วนโกดังเก็บข้าวขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ได้รับรายงานว่าถูกน้ำท่วมใน 2 จังหวัด คือ สุพรรณบุรี และนครสวรรค์ รวมกันกว่า 2 หมื่นกระสอบ ดังนั้นในเบื้องต้นจึงมีปริมาณข้าวสต็อกของรัฐที่ได้รับความเสียหายประมาณ 1.2 แสนกระสอบเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม คาดว่าในสัปดาห์หน้า จะมีความชัดเจนว่าจำนวนข้าวสารที่อยู่ในโกดัง อคส. และ อ.ต.ก. ได้รับความเสียหายเท่าใด แต่จากปัญหาน้ำท่วม ส่วนของข้าวสารน่าจะได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย เพราะในแต่ละโกดังมีพื้นที่เก็บข้าวในที่สูง ดังนั้นจะต้องเร่งแยกแยะข้าวที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เพื่อไปดำเนินการเปิดประมูลขายต่อไป ส่วนโกดังที่เตรียมไว้สำหรับขายผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า อาจจะมีการเปลี่ยนโกดังใหม่

สำหรับพื้นที่ทางการเกษตรที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมนั้น ขณะนี้ตัวเลขจากการรายงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีประมาณ 6.9 ล้านไร่ และน่าจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตข้าวให้ลดลงประมาณ 2-3 ล้านตันข้าวเปลือก จากปริมาณปกติของผลผลิตข้าวนาปีที่กำลังจะทยอยออกมาหลังน้ำลดนี้คาดว่าจะมีปริมาณ 22-24 ล้านตันข้าวเปลือก แต่ก็น่าจะมีบางส่วนที่สามารถปลูกเพิ่มมาทดแทนกันได้ อย่างไรก็ตามพื้นที่ปลูกข้าวที่ได้รับความเสียหายก็จะได้รับการชดเชยจากรัฐบาลอยู่แล้ว และการที่ผลผลิตลดลงนี้ น่าจะทำให้ราคาข้าวมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับประเทศเวียดนามก็ประสบกับปัญหาภัยธรรมชาติด้วยจึงน่าจะทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกขยับขึ้น

ที่มา คมชัดลึก