นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สัปดาห์นี้ตนในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.) จะเสนอ กขช.ที่มีนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ให้พิจารณาแนวทางระบายข้าวในประเทศ เพราะปริมาณข้าวในประเทศเพิ่มสูงขึ้นมาก จากการที่เกษตรกรหันมาปลูกข้าวเพิ่มขึ้นตามโครงการประกันรายได้ และผู้ส่งออกซื้อข้าวราคาถูกจากต่างประเทศได้ จากการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน(อาฟต้า) ขณะที่การซื้อขายข้าวในตลาดโลกมีปริมาณจำกัด การขยายตลาดจึงเป็นเรื่องยากขึ้น

ทั้งนี้ มองว่าไทยควรจะปรับกลยุทธ์การส่งออกข้าว โดยต้องส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นตามปริมาณผลผลิต เพราะถ้าข้าวค้างสต็อกมากจะมีผลต่อข้าวในฤดูการผลผลิตถัดไป ทำให้ราคาข้าวตกต่ำ โดยที่ผ่านมาได้ทดลองแก้ปัญหาด้วยการเปิดจุดรับซื้อข้าว ซึ่งดึงราคาตลาดขึ้นได้เพียงตันละ 500-600 บาท จากนั้นก็ไม่ขยับขึ้นอีก

"ภาครัฐควรระบายข้าวออกให้เร็วที่สุด โดยต้องระบายออกไปในต่างประเทศ เพื่อไม่ให้กระทบต่อตลาดภายใน โดยที่ผ่านมาการระบายข้าวทุกครั้งจะถูกสั่งระงับเพราะขาดทุน ซึ่งในทางปฏิบัติจะทำให้มีกำไรก็ค่อนข้างยาก เพราะมีการรับซื้อข้าวมาในราคาสูง" นางวัชรีกล่าว

ด้านนางสมจินต์ เปล่งขำ ผู้อำนวยการอาวุโสสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐ กล่าวว่า ขณะนี้สหรัฐได้เร่งพัฒนา และวางจำหน่ายข้าว Jazzman Rice ทดแทนข้าวหอมมะลิไทยแล้ว โดยคาดว่าปีนี้จะเก็บเกี่ยวได้ 12,000 ตัน และปี 2554 เก็บเกี่ยวได้ถึง 63,000 ตัน หรือเทียบเท่ากับ 18% ของปริมาณการนำเข้าข้าวหอมมะลิจากไทยในปี 2551 โดยข้าว Jazzman Rice มีราคาถูกกว่า ซึ่งในอนาคตจะกลายเป็นคู่แข่งที่สำคัญของข้าวหอมมะลิไทยได้

นอกจากนี้ พบว่า ขณะนี้ผู้นำเข้าข้าวหอมมะลิจากไทย ที่เป็นบริษัทจีนและเกาหลีใต้ในสหรัฐ นิยมนำเข้าข้าวพันธุ์ปทุมธานีจากไทยเพิ่มขึ้น แทนการนำเข้าข้าวหอมมะลิ เนื่องจากมีราคาถูกกว่ามาก แต่ยังใช้ตราสัญลักษณ์บนถุงว่าเป็นข้าวหอมมะลิแท้ ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดในคุณภาพ ทางผู้นำเข้าข้าวหอมมะลิแท้ จึงต้องการให้รัฐบาลไทยเร่งแก้ไขปัญหา เพราะในอนาคตจะทำให้ข้าวหอมมะลิไทยเสียชื่อเสียงได้

ที่มา แนวหน้า