นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนได้สั่งการให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบปริมาณข้าวสารในประเทศใหม่ทั้งหมด ทั้งสต็อกข้าวเก่าในสต็อกรัฐบาล และข้าวนาปีฤดูกาลใหม่ที่กำลังออกมา ว่ามีปริมาณได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมเท่าไร รวมถึงให้หยุดการระบายสต็อกข้าวรัฐชั่วคราว เพื่อรอดูภาพรวมปริมาณข้าวของทั้งประเทศปีหน้าให้แน่ใจว่า จะไม่เกิดปัญหาขาดแคลน หรือข้าวราคาแพงจนประชาชนต้องเดือดร้อน
“หลังเกิดน้ำท่วมใหญ่ในหลายจังหวัด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็กังวลว่าจะเกิดกระทบต่อผลผลิตข้าว และการบริโภคของคนไทย จึงมอบหมายให้กระทรวงไปเร่งตรวจดูผลกระทบที่เกิดขึ้น ซึ่งในสัปดาห์หน้าหลังจากน้ำลด จะมอบให้ อคส.ลงไปตรวจอย่างละเอียดว่า สต็อกข้าวที่เก็บอยู่เสียหายแค่ไหน เพราะมีโกดังหลายแห่งอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมสูง เช่น อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา รวมถึงดูปริมาณผลผลิตที่คาดว่าจะออกมาด้วย” นางพรทิวากล่าว
นอกจากนี้ได้สั่งกรมการค้าต่างประเทศ หยุดการระบายข้าวสารในสต็อกรัฐชั่วคราว หลังจากได้เปิดระบายมาระยะหนึ่ง เพื่อรอดูปริมาณผลผลิตข้าวนาปีที่กำลังออกมา ว่ามีมากน้อยแค่ไหน ก่อนนำมากำหนดแผนการระบายข้าวสารใหม่อีกครั้ง แต่ยืนยันว่าขณะนี้รัฐบาลยังมีข้าวสารเหลืออยู่ในสต็อกมากกว่าล้านตัน เพียงพอต่อการให้บริโภคภายในประเทศไปอีกหลายเดือน
“ขอให้ประชาชนสบายใจได้ปีนี้หรือปีหน้า ข้าวสารจะไม่ขาดแคลนแน่นอน แม้น้ำท่วมจะสร้างความเสียหายให้พื้นที่เพาะปลูกไปบ้าง 4-5 ล้านไร่ แต่ภาพรวมผลผลิตข้าวทั่วประเทศยังดีอยู่ อีกทั้งรัฐบาลก็มีสต็อกข้าวเหลือด้วย ดังนั้นไม่ต้องกังวล และหากปริมาณผลผลิตลดจริง เราก็อาจเลือกส่งออกไปต่างประเทศน้อยหน่อย แต่คนไทยจะต้องมีข้าวพอกินพอใช้และราคาไม่แพงแน่นอน” นางพรทิวา กล่าว
ส่วนราคาข้าวสารบรรจุถุงในช่วงหลังจากนี้ ยืนยันว่าจะไม่ปรับขึ้นราคาแน่นอน เพราะเท่าที่ได้ข้อมูลจากผู้ประกอบการข้าวถุงก่อนหน้านี้ยืนยันว่าจะตรึงราคาถึงสิ้นปี เพราะต้นทุนการผลิตยังเป็นข้าวสต็อกเดิม จึงจะไม่มีข้ออ้างจากปัญหาน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม หากพบมีการขึ้นราคาจริง กระทรวงพาณิชย์พร้อมพิจารณาทำข้าวถุงธงฟ้าที่ราคาถูกกว่าออกมาแข่งขัน เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภค
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับปริมาณสต็อกข้าวรัฐบาลเดิมมีทั้งสิ้น 5.6 ล้านตัน และฤดูกาลที่ผ่านมาใช้นโยบายประกันราคาและมีการตั้งโต๊ะแทรกแซงเพียงเล็กน้อย สต็อกรัฐบาลจึงไม่เพิ่มขึ้น และที่ผ่านมาได้มีการอนุมัติขายให้เอกชนไปแล้วช่วงเดือน ก.ค.-ต.ค. ปริมาณ 3.16 ล้านตัน คงเหลือสต็อกรัฐบาลประมาณ 2 ล้านตันเศษ
นางพรทิวา กล่าวต่อว่า ยังมอบหมายให้กรมการค้าภายในร่วมมือกับผู้ผลิตสินค้า จัดโครงการคาราวานธงฟ้า นำสินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าที่จำเป็นต้องใช้ในช่วงหลังน้ำลด เช่น วัสดุก่อสร้าง อิฐ หิน ปูน ทราย สีทาบ้าน ตะปู อุปกรณ์การเกษตร ปุ๋ยเคมี ยาปราบศัตรูพืช มาใส่ขบวนรถเคลื่อนที่ไปขายราคาถูกให้ประชาชนถึงพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยน้ำท่วม โดยเริ่มสัปดาห์หน้า ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และเคลื่อนไปขบวนไปอีกหลายจังหวัดที่เดือดร้อน
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
|