www.thairiceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

สัปดาห์หน้าโละข้าวสต๊อกรัฐอีก 3 แสนตัน


นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าจะเรียกประชุมคณะอนุกรรมการระบายข้าว เพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์การระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล 3 แสนตัน จากสต๊อกทั้งหมด 6 ล้านตัน ตามนโยบายคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่ต้องการให้ระบายข้าวในช่วงราคาดีและไม่กระทบต่อราคาข้าวในตลาด

ขณะนี้เป็นช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมต่อการเปิดระบายข้าว เพราะผลผลิตข้าวนาปีส่วนใหญ่ออกสู่ตลาดแล้ว และแนวโน้มราคาดีขึ้นเรื่อยๆ โดยราคาส่งออกข้าวขาว 5% อยู่ที่ตันละ 590 เหรียญสหรัฐ ข้าวหอมมะลิตันละ 1,090 เหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ ข้าวที่จะระบายเป็นข้าวใหม่ ฤดูผลิตปี 2551/2552 ถือว่าเป็นข้าวคุณภาพดีและตลาดต้องการ โดยมีแผนจะระบายอย่างต่อเนื่องครั้งละ 3-5 แสนตัน

นางพรทิวา กล่าวถึงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ด้วยว่า ยังติดปัญหาที่ผ่านมาราคาไม่นิ่งพอ เพราะเจรจากับประเทศที่ตกลงซื้อขายได้แล้ว ราคาข้าวปรับขึ้นอีก ทำให้ยังตกลงกันไม่ได้ แต่มีแผนจะเปิดเจรจาใหม่กับหลายประเทศที่เสนอซื้อข้าวไทยเข้ามา อาทิ อินเดีย อินโดนีเซีย

ด้านน.ส.กอบสุข เอี่ยมสุรีย์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า เห็นด้วยที่จะระบายข้าวในสต๊อก แต่ควรระบายในปริมาณไม่เกิน 3-5 แสนตัน ต่อเนื่องทุกๆ 2 เดือน โดยระบายเพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออกแบบไม่ยกล็อต เพื่อไม่ให้ราคาข้าวผันผวนมาก

ด้านนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลช่วงนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่เริ่มจะระบายได้ เพราะราคาข้าวในประเทศช่วงนี้ อยู่ในช่วงราคาที่ดีเกิน 10,000 บาทเศษ สูงกว่าราคาประกันที่ตั้งไว้เป็นราคาอ้างอิง ประกอบกับข้าวเปลือกไม่ได้ออกสู่ตลาดมากนัก กว่าจะเข้าสู่ช่วงฤดูนาปรังอีกครั้งก็เป็นช่วงปลายเดือนก.พ.-มี.ค. แต่ควรระบายไม่เกิน 3-5 แสนตัน ส่วนราคาข้าวจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นได้มากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับปัจจัยการนำเข้าข้าวของอินเดีย ซึ่งปีนี้ การส่งออกข้าวของไทยสินค้าที่จะเป็นพระเอก คือข้าวนึ่ง เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา ที่ไทยส่งออกได้ 3.6 ล้านตัน เนื่องจากอินเดียไม่ส่งออกทำให้ไทยครองตลาดเกือบทั้งหมด

นางพรทิวา กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.นี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดให้บริการสายด่วนอาฟตา 1385 เพื่อให้ข้อแนะนำและรับฟังปัญหาภายหลังเปิดเสรีการค้าอาเซียน (อาฟตา) พบว่าวันแรกของการเปิดบริการมีผู้ประกอบการสอบถามมากว่า 50 ราย อย่างไรก็ตาม หากพบว่าสินค้าใดมีปัญหาก็สามารถยื่นเรื่องเพื่อขอสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาจากกองทุนเอฟทีเอ

สำหรับการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการอาฟตาฮอตไลน์ 1385 จะปฏิบัติงานใน 4 ลักษณะ คือ กลุ่มสายด่วนอาฟตา เพื่อตอบคำถามและรับฟังปัญหา กลุ่มติดตามและประเมินสถานการณ์ กลุ่มให้คำปรึกษาสัญจร เป็นหน่วยเคลื่อนที่เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและให้คำปรึกษากับผู้ที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มมาตรการช่วยเหลือ ไว้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากความตกลง ตลอดจนการเยียวยาผลกระทบและใช้มาตรการช่วยเหลือต่างๆ และจะมีการจัดสัมมนาใหญ่กลางเดือนก.พ. 2553

ที่มา โพสต์ทูเดย์

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@thairiceexporters.or.th


Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.