นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนเริ่มตื่นตัวเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปมาก ซึ่งสิ่งสำคัญคือ การส่งสัญญาณหรือนโยบายของภาครัฐ โดยเฉพาะการปลูกพืชช่วงฤดูแล้ง ต้องนำหลักเกณฑ์การประกันรายได้มาดูแล โดยสั่งการแล้วว่า ในการดำเนินงานโครงการประกันรายได้จะเปิดให้เกษตรกรใช้สิทธิได้เพียงรายละ 2 รอบเท่านั้น เชื่อว่าจะทำให้เกษตรกรลดการปลูกข้าวลง และไม่ประกันรายได้ให้ข้าวพันธุ์ที่คุณภาพต่ำ อายุสั้น
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะไม่ห้ามปรามโดยตรงในการเพาะปลูก แต่ต้องพิจารณาเหตุผล ขณะที่ทุกฝ่ายต้องตระหนักถึงส่วนรวมมากขึ้น ในการใช้น้ำ ปกติกลุ่มผู้ใช้น้ำจะประชุมกันก่อน ต้องรู้ว่าน้ำพอปล่อยลงมา กว่าจะถึงในส่วนของเขาใช้เวลาเท่าไร ซึ่งจะช่วยในการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญต้องขอความร่วมมือประชาชนให้มีวินัย เพื่อประโยชน์ของทุกคนให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ จึงอยากขอความร่วมมือเป็นพิเศษ
"การทำงานพวกเราไม่ประมาท ดังนั้นจะติดตามอย่างใกล้ชิด โดยตั้งวอร์รูมขึ้นมา แต่ว่าการวางแผนล่วงหน้า ผมคิดว่า ถ้าช่วยและได้รับความร่วมมือก็จะทำให้ราบรื่นกว่า หากทำงานไประยะหนึ่ง ระบบข้อมูลการเกษตรทั้งหมดจะมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ โดยจะนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ด้วย ให้มีข้อมูลแม่นยำ รวดเร็ว การบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ" นายอภิสิทธิ์กล่าว
ทั้งนี้ รัฐบาลสั่งให้แก้ปัญหาในระดับพื้นที่ก่อน มีการวางแผนตกลงเรื่องการใช้น้ำ มีการติดตามข้อมูลจริงแบบเรียลไทม์ตลอดเวลา หากปัญหารุนแรงมีความจำเป็นต้องได้รับความสนับสนุนจากรัฐบาล กระทรวงเกษตรฯ จะนำเรื่องเข้า ครม.สามารถอนุมัติให้มีมาตรการแก้ปัญหาได้
ด้านนายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2552-30 เมษายน 2553 พบปริมาณน้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำรวม 5 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร น้อยกว่าปีที่ผ่านมา 900 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือเท่ากับปริมาณน้ำในเขื่อนป่าสักฯ ทั้งหมด ปริมาณน้ำดังกล่าวไม่สามารถนำมาใช้ได้ทั้งหมด ต้องกัน 1.4 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อใช้ช่วงฤดูฝน ปี 2554 ขณะนี้ยังคาดการณ์ไม่ได้ว่าจะมีฝนตกล่าช้าออกไปหรือไม่ เหลือน้ำต้นทุนที่ใช้การได้เพียง 3.4 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร กรมชลประทานจึงวางแผนจัดสรรน้ำทั้งประเทศจำนวน 20,720 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยจัดลำดับความสำคัญ คือ เพื่อบริโภคและอุปโภค 1,836 ล้านลูกบาศก์เมตร รักษาระบบนิเวศ 5,539 ล้านลูกบาศก์เมตร เกษตรกรรม 13,176 ล้านลูกบาศก์เมตร และอุตสาหกรรม 169 ล้านลูกบาศก์เมตร
ที่มา คมชัดลึก
|