นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน เรียกสมาคมผู้ผลิตข้าวถุง ผู้ประกอบการรายใหญ่ และห้างค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ เข้ามาหารือเพื่อกำชับไม่ให้มีการปรับราคาขายปลีกข้าวถุงจนถึงสิ้นปีนี้ หลังจากที่ผ่านมามีประชาชนร้องเรียนเข้ามาว่ามีผู้ประกอบการข้าวถุงเตรียมปรับขึ้นราคาข้าวถุง 5 กิโลกรัม ขึ้นอีกถุงละ 5-10 บาท โดยอ้างว่าได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมใหญ่ จนทำให้ผลผลิตลดลง และต้นทุนผลิตข้าวปรับสูงขึ้น
“จะต้องตรวจสอบข้อมูลเร่งด่วนว่ามีการปรับขึ้น แบบใด ที่ผ่านมายังไม่มีการแจ้งให้กรมการค้าภายในรับรู้ และกรมฯ ก็ไม่เคยอนุญาตให้ขึ้นราคา และหลังจากนี้จะเรียกผู้ประกอบการข้าวถุง มาสอบถามถึงสาเหตุให้ชัด" นางพรทิวา กล่าว
ส่วนกรณีผู้ประกอบการบางรายอ้างว่า ราคาข้าวถุงที่ลดลงก่อนหน้านี้ เป็นเพราะอยู่ในช่วงราคาโปรโมชั่น แต่ภายหลังโปรโมชั่นสิ้นสุดลง ราคาจึงขยับขึ้นมา จึงจะต้องหารือและขอความร่วมมือให้ตรึงราคาไว้ก่อน เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน และเห็นว่าราคาข้าวภายในประเทศตอนนี้ยังไม่ขยับขึ้นสูง อีกทั้งข้าวถุงที่ขายส่วนใหญ่ก็เป็นสต็อกข้าวเก่า และยังมีผู้ผลิตข้าวถุงบางราย ซื้อข้าวในสต็อกรัฐบาลในราคาต่ำอยู่แล้ว จึงไม่มีเหตุผลสมควรให้ปรับขึ้นราคา ทั้งนี้หากมีการปรับราคาสินค้าขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการกระทำความผิดกฎหมาย ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท
นอกจากนี้ ได้สั่งกำชับกรมการค้าภายใน ให้ดูแลราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคอื่นๆ ด้วย ไม่ขึ้นราคาจนถึงสิ้นปี ตามมาตรการที่เคยขอความร่วมมือไปก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันจะประสานผู้ประกอบการกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เช่น โฮมโปร จัดวัสดุก่อสร้างไปจำหน่ายในราคาพิเศษให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม
นายสมฤกษ์ ตั้งพิรุฬห์ธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยฮา และนายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย กล่าวว่า ราคาขายปลีกข้าวขาวในตลาดเริ่มสูงขึ้นแล้วประมาณ 1-2 บาทต่อถุง จากปัจจุบันข้าวขาวถุงขนาด 5 กิโลกรัม ขายปลีกที่ถุงละ 80-90 บาท โดยปัจจัยหลักเป็นผลมาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่สูงขึ้น หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ประกาศอัดฉีดเงินรอบใหม่เข้าสู่เศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงผลผลิตในประเทศได้รับความเสียหายจากปัญหาน้ำท่วม
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ราคาข้าวถุงที่ปรับตัวสูงขึ้น นั้นได้ให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบข้อมูลว่าปรับขึ้นจริง หรือเป็นตามโปรโมชั่น แต่จะขอความร่วมมือให้ตรึงราคาถึงสิ้นปี
ทั้งนี้ หากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยน้ำท่วม พบเห็นการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า กักตุนสินค้า มีการปฏิเสธการจำหน่าย หรือผู้ที่ประสงค์ร่วมบริจาคสิ่งของช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่ สายด่วน กรมการค้าภายใน 1569 ขณะนี้เปิดบริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ
|
