นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ในฐานะโฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ภาพรวมการส่งออกสินค้าที่สำคัญในช่วงเดือนมกราคม - เมษายน 2553 ซึ่งมีมูลค่าส่งออกสินค้ารวม 1,911,548 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2552 หรือคิดเป็นร้อยละ 24.36 ซึ่งเมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกทั้งหมดของเดือนเมษายน 2553 เมื่อเปรียบเทียบช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา พบว่า เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.01 ขณะที่การส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด พบว่า มีมูลค่าการส่งออกรวม 473,040 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 31.66 โดยสินค้าสำคัญที่มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้นมาก ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง น้ำตาลดิบ ยางพารา และกุ้งแช่เย็น แช่แข็ง ส่วนสินค้าที่มูลค่าส่งออกลดลง คือ ข้าวหอมมะลิ สับปะรดกระป๋อง และเนื้อไก่ ซึ่งข้าวหอมมะลิมีมูลค่าส่งออกลดลงในส่วนที่เป็นข้าวท่อน เนื่องจากประเทศนำเข้าแถบแอฟริกามีปัญหาทางทางเศรษฐกิจ ทำให้หันไปบริโภคข้าวคุณภาพต่ำและข้าวสาลีที่มีราคาถูกกว่า

นายอภิชาต กล่าวด้วยว่า เมื่อพิจารณาการส่งออกเป็นรายสินค้า โดยเฉพาะสินค้าเกษตรหลักที่สำคัญ เช่น ข้าว พบว่า มีปริมาณส่งออกรวม 2,684,774 ตัน มูลค่า 54,406.00 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาปริมาณการส่งออกลดลงร้อยละ 1.32 แต่มูลค่าเพิ่มขึ้น 2.73 ตามลำดับ นอกจากนี้ ในส่วนของราคาสินค้าเกษตรที่เกษตรกรขายได้ ณ ไร่นาสัปดาห์นี้ ผลไม้เป็นสินค้าที่มีราคาปรับตัวสูงขึ้นค่อนข้างมาก ทั้งทุเรียน เงาะโรงเรียน มังคุด และลองกอง เนื่องจากผลผลิตในภาคตะวันออกออกสู่ตลาดลดลง เพราะเป็นช่วงปลายฤดูกาล นอกจากนี้ ยังมีสินค้าอื่นๆ ที่ปรับตัวในทิศทางที่สูงขึ้น ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน และไก่เนื้อ อย่างไรก็ตาม คาดว่าสัปดาห์หน้าราคาสินค้าเกษตรจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยผลไม้ราคาอาจจะปรับตัวลดลง เนื่องจากผลไม้ภาคใต้และลำไยภาคเหนือจะเริ่มออกสู่ตลาด สำหรับยางพารา คาดว่าราคาจะยังคงผันผวน ตามทิศทางราคาตลาดโลกและราคาน้ำมัน

ที่มา สนข.กรมประชาสัมพันธ์