|
คุยฟุ้งจีทูจี 2 ล้านตัน'ไตรรงค์'โยน'พรทิวา'ชี้ชะตาเอ็มที
|
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานการขายข้าวจำนวน 1.9 ล้านตัน ให้กับบริษัทเอ็มที เซ็นเตอร์เทรด ซึ่งจนบัดนี้บริษัทยังไม่สามารถวางค้ำประกันเพื่อเซ็นสัญญาซื้อขายข้าวกับองค์การคลังสินค้า (อคส.)/องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ได้ ล่าสุด นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนี้ว่า บริษัทเอ็มทีฯยังไม่ได้ทำสัญญาซื้อข้าวสต๊อกรัฐบาล ส่วนการขอขยายระยะเวลาการรับมอบและขนย้ายข้าวสารนั้น ต้องพิจารณาตามแนวทางที่ นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นประธานคณะอนุกรรมการด้านการตลาดเสนอมาว่า จะยอมรับเงื่อนไขของบริษัทที่ขอขยายระยะเวลาจาก 5 เดือนเป็น 18 เดือนหรือไม่
"ผลจากการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่ได้ทำให้ราคาข้าวในตลาดตกต่ำลง หลังจากระบายแล้วจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับทราบถึงรายละเอียดต่าง ๆ ต่อไป ส่วนการระบายข้าวที่เหลือในขณะนี้ก็อาจจะใช้วิธีการระบายข้าวรัฐบาลกับรัฐบาลหรือจีทูจี โดยผลจากการที่นำคณะไปพบประธานาธิบดีไนจีเรียแจ้งว่า ต้องการซื้อข้าวสารจากไทย 650,000 ตัน และยังได้พบนายกรัฐมนตรีเซเนกัลแจ้งว่า ต้องการซื้อข้าวสารจากไทย 500,000 ตัน โดยในเดือนพฤศจิกายนนี้จะจัดคณะเจ้าหน้าที่มาหารือกับกรมการค้าต่างประเทศต่อไป" นายไตรรงค์กล่าว
อย่างไรก็ตามเมื่อผลการเจรจาขายข้าวจีทูจี ทางกรมการค้าต่างประเทศจะนำ เสนอมาที่ รมว.พาณิชย์ และเสนอต่อมายังตนในฐานะรองประธานคณะกรรมการนโยบายข้าว (กขช.) พิจารณาว่าจะอนุมัติขายหรือไม่ ทั้งนี้คาดว่าคงจะไม่เปิดประมูลให้ผู้ส่งออกเข้ามาร่วมปรับปรุงข้าว เพราะเชื่อว่าวิธีการประมูลที่ผ่านมามีผลทำให้ราคาข้าวในตลาดลดลง
"ตอนนี้ยังไม่ได้เซ็นสัญญา ยังไม่ได้ข้อสรุปขั้นตอนการขาย กระทรวงพาณิชย์เสนอมา ผมหรือนายกรัฐมนตรีจะเป็นคนอนุมัติ ซึ่งอาจจะขายหรือไม่ขายก็ได้" นายไตรรงค์กล่าว
แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าวเปิดเผยว่า ขณะนี้กรมการค้าต่างประเทศได้เจรจาขายข้าวจากสต๊อกรัฐบาลให้กับรัฐบาลหลายประเทศที่เดินทางเข้ามา นอกจากไนจีเรียและเซเนกัลแล้ว ล่าสุดมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานจัดซื้อข้าวของรัฐบาลมาเลเซีย (เบอร์นาร์ด) กับหน่วยงานจัดซื้อข้าวของรัฐบาลอินโดนีเซีย (บูล็อก) เดินทางเข้ามาเยือนประเทศไทย โดยมีการส่งสัญญาณว่าทางอินโดนีเซียต้องการนำเข้าข้าวในช่วงปลายปีถึงต้นปี 2554 อีกปริมาณ 1 ล้านตัน คาดว่าจะแบ่งนำเข้าข้าวขาว 15% จากรัฐบาลเวียดนามและข้าวขาว 5% จาก รัฐบาลไทย แต่ยังต้องมีการเจรจาประเด็นราคากับอินโดนีเซียก่อน หลังจากนั้นก็จะเสนอต่อที่ประชุม กขช.ต่อไป
ทั้งนี้หากรัฐบาลขายข้าวจีทูจีเพิ่มอีกรวม 3 ประเทศ ซึ่งจะคิดเป็นปริมาณเกือบ 2 ล้านตัน และอีกด้านหนึ่งยังขายใหผู้ซื้อที่เป็นภาคเอกชนอีก 3.6 ล้านตัน อาจจะส่งผลทำให้สต๊อกข้าวรัฐบาลที่เดิมมีปริมาณ 5.6 ล้านตันลดลงทันที เหลือไม่ถึง 1 ล้านตัน
ขณะที่ผลผลิตข้าวนาปีฤดูกาลใหม่จะออกช้ากว่ากำหนด ราวกลางเดือนธันวาคม ทำให้รัฐบาลประเมินว่าทิศทางราคาข้าวจะปรับสูงขึ้น ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกที่ซื้อข้าวไปทั้งหมด
"หากกระทรวงพาณิชย์ยืดหยุ่น ยอมให้บริษัทเอ็มทีฯสามารถขยายระยะเวลารับมอบข้าวได้ ก่อนที่จะมีการเซ็นสัญญา จะกลายเป็นการสร้างบรรทัดฐานในการค้าข้าวที่ไม่ดี และไม่เคยมีผู้ส่งออกรายใดได้รับการยืดหยุ่นในลักษณะนี้ ซึ่งจะมีผล 2 ทางคือ 1)ผู้ส่งออกที่ซื้อข้าวรัฐบาล 1.6 ล้านตัน ลอตที่ 1-2 ขอขยายระยะเวลารับมอบบ้าง เพื่อให้เท่าเทียมกัน ซึ่งในที่สุดรัฐบาลก็ต้องยอม หรือ 2)หากผู้ส่งออกกลุ่มดังกล่าวไม่ขอยืดระยะเวลา อาจจะมีบางรายทำหนังสือร้องเรียนรัฐบาล เพื่อให้เข้ามาดูแลให้การระบายข้าวเกิดความโปร่งใสมากขึ้น
"อีกด้านหนึ่งในทางลับ ผู้ส่งออกที่ซื้อข้าวไปก่อนก็ขายข้าวถล่มราคาลงมา ซึ่งขณะนี้ก็มีกระแสข่าวว่าหลายรายทำอย่างนั้น ทำให้ราคาข้าวขาว 5% ลดลงตันละ 700-1,000 บาท จาก 13,500 บาทต่อตัน หรือเพียง 12,700 บาท ซึ่งจะมีผลให้บริษัทเอ็มทีฯหมดทางขายข้าวทำกำไรและในที่สุดก็ต้องทิ้งสัญญา โดยอ้างว่ารัฐบาลไม่ยอมขยายระยะเวลารับมอบข้าวให้ตน" แหล่งข่าวกล่าว
ที่มา ประชาชาติธุรกิจ
|
|
|
|
|
© Thai Rice Exporters Association
37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678
E-mail : contact@thairiceexporters.or.th
Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.
|
|
|