www.thairiceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

"ไตรรงค์"กลับลำโรดโชว์ข้าว หลังราคาข้าวในปท.ดิ่งลงเหว


ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานเข้ามาว่า ขณะนี้ นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มอบหมายให้ นายวิจักร วิเศษน้อย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ จัดทำแผนโรดโชว์ขาย ข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลในลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) อีกครั้ง หลังจากเลื่อนมาระยะหนึ่งตามที่ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี "ปฏิเสธ" การเดินทางไปขายข้าวทริปแรก ที่วางแผนจะไปพบ รัฐบาลมาเลเซียในช่วงปลายเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่าจะไม่ไปขายข้าวต่างประเทศในลักษณะเร่ขาย ซึ่งอาจจะทำให้ถูกกดราคาข้าวได้

แต่ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมการจัดโครงการโรดโชว์อีกครั้ง โดยมีนายไตรรงค์เป็นหัวหน้าคณะเดินทาง พร้อมกับตัวแทนของสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย โดยครั้งแรกมีแผนจะเดินทางไปเยือนและพบกับรัฐบาลในประเทศบังกลาเทศ-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และอิหร่าน ระหว่างวันที่ 12-18 เมษายนนี้ ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ จากเดิมที่กรมการค้าต่างประเทศกำหนดแผนการเดินทางไว้ 3 แผนด้วยกัน คือ 1) วันที่ 7-9 เมษายน เดินทางไปบังกลาเทศ 2) วันที่ 21-25 เมษายน เดินทางไปลิเบีย-เซเนกัล และ 3) ระหว่างวันที่ 26-28 เมษายน เดินทางไปอิหร่าน-อินเดีย และมอริเชียส

"สาเหตุที่กระทรวงพาณิชย์ต้องเร่งดำเนินการแผนโรดโชว์ คงเป็นเพราะปัจจุบันสถานการณ์การส่งออกข้าวในส่วนของภาคเอกชนชะลอตัวลงไปมาก แม้ว่าจะพยายามทำตลาด ที่ผ่านมาผู้ส่งออกซื้อข้าวเก็บสต๊อกไว้ 5-6 ล้านตัน รวมข้าวรัฐบาลอีก 5-6 ล้านตัน และยังมีโรงสีอีก 5 ล้านตัน ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงที่มีการเก็บเกี่ยวข้าวนาปรัง ซึ่งคาดการณ์ไว้ที่ตัวเลข 8.33 ล้านตัน ยิ่งมีผลทำให้ราคาตลาดลดลง เช่น ข้าวขาว 5% จากปลายเดือนก่อนตันละ 14,000-14,500 บาท ขณะนี้ผู้ส่งออกซื้อเหลือ 13,000-13,500 บาท หรือคิดเป็นข้าวเปลือกประมาณ 6,500-7,500 บาท ชาวนาก็เลยออกมาขู่ม็อบ ถ้าไม่มีโรดโชว์กระตุ้นตลาด รัฐบาลก็จะเสียงบประมาณในการเก็บรักษาสต๊อกข้าวเก่าที่ไม่เคยระบายเลยนับจากสมัยอดีตรัฐมนตรี ไชยา สะสมทรัพย์ และยังต้องชดเชยเงินให้เกษตรกรในโครงการประกันรายได้อีก"

แหล่งข่าวสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยกล่าวว่า การเดินทางไปพบลูกค้าและการทำจีทูจีจัดเป็นนโยบายที่ควรสนับสนุน เพราะสถานการณ์การส่งออกข้าวในช่วงไตรมาส 2 จะเริ่มเห็นตัวเลขลดลงแล้ว หลังจากกลุ่มผู้ซื้อชะลอดูสถานการณ์ราคาข้าวในไทยที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง จนเกิดความไม่มั่นใจในการสั่งซื้อ ทำให้ผู้ส่งออกข้าวยักษ์ใหญ่ 4-5 รายที่มีสต๊อกต้องชะลอการรับซื้อข้าวใหม่ในตลาด เพื่อลดต้นทุนการเก็บสต๊อกในช่วงภาวะราคาขาลง ดังนั้นหากรัฐบาลได้ออร์เดอร์จีทูจีก็จะต้องให้ภาคเอกชนเป็นผู้ส่งมอบอยู่แล้ว และยังเป็นการกระตุ้นตลาดอีกทางหนึ่งด้วย

"รัฐบาลควรมีแผนปฏิบัติที่ชัดเจนเพื่อให้เกิดผลสำเร็จ ไม่ใช่แค่ไปจับมือกันหรือเอาเอกชนไปเซ็น MOU บางประเทศที่เคยนิยมซื้อจีทูจีอย่างอิหร่าน ปัจจุบันก็ปรับวิธีให้เอกชนซื้อขายกันเองมากขึ้น หรือบังกลาเทศก็นิยมซื้อผ่านระบบค้าชายแดนกับปากีสถานและอินเดีย เพราะมีราคาถูกกว่าข้าวไทยตันละ 100 เหรียญสหรัฐ ขณะที่อินเดียมีแนวโน้มว่าจะกลับมาส่งออกข้าวอีกแล้ว หลังจากชะลอแผนการนำเข้าเพราะมีธัญพืชออกมา" แหล่งข่าวกล่าว

ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศได้รายงานตัวเลขการส่งออกข้าว 2 เดือนแรก (มกราคม-กุมภาพันธ์) 2553 ปริมาณรวม 1,409,698.10 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 7.40% ด้านมูลค่า 873.83 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 22.75% ทั้งหมดเป็นการส่งออกข้าวของภาคเอกชนเท่านั้น โดยตลาดส่งออกสำคัญรายภูมิภาค ได้แก่ เอเชีย ปริมาณ 452,739.50 ตัน คิดเป็นสัดส่วน 32.12% ขยายตัวเพิ่มขึ้น 74.36% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน, ตะวันออกกลาง 172,818.08 ตัน สัดส่วน 12.26% ลดลง 16.95%, ตลาดยุโรป 75,323.99 ตัน สัดส่วน 5.34% ลดลง 28.06%, ตลาดแอฟริกา 607,610.06 ตัน สัดส่วน 43.10% เพิ่มขึ้น 1.03%, สหรัฐ 76,499.79 ตัน สัดส่วน 5.43% ลดลง 33.89% และโอเชียเนีย 24,706.69 ตัน สัดส่วน 1.75% เพิ่มขึ้น 7.46%

ที่มา ประชาชาติธุรกิจ

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@thairiceexporters.or.th


Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.