www.thairiceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

"พรทิวา"เคาะขายข้าว 3 แสนตัน 14 ม.ค.


รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เตรียมประชุมคณะอนุกรรมการระบายข้าว เพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์การระบายข้าวสารในสต็อกรัฐบาล 3 แสนตัน จากสต็อกทั้งหมด 6 ล้านตัน ในวันที่ 14 ม.ค.นี้ ตามที่คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) อนุมัติแผนการระบายข้าวที่กระทรวงพาณิชย์เสนอแล้ว

แหล่งข่าวจากกลุ่มผู้ค้าข้าว กล่าวว่า ขณะนี้ราคาข้าวตลาดในประเทศปรับตัวลดลงมามาก หลังจากมีข่าวว่ารัฐจะเปิดระบายข้าวสารในสต็อก โดยราคาข้าวช่วง 2 วันที่ผ่านมา หรือ วันที่ 11-12 ม.ค. ปรับตัวลดลงถึงตันละ 700-800 บาท ข้าวขาว 5% ราคา 1.68-1.7 หมื่นบาท ลดลงจาก 1.75-1.78 หมื่นบาท ข้าวขาว 100% ราคา 2.05 หมื่นบาท ลดลงจาก 2.2 หมื่นบาท และปลายข้าว 1.2 -1.22 หมื่นบาท ลดลงจาก 1.3 หมื่นบาท

“ผู้ส่งออกชะลอซื้อข้าวจากโรงสี เพื่อกดดันให้ราคาข้าวปรับตัวลดลง ทั้งที่ทิศทางราคาข้าวในตลาดโลกมีสัญญาณดีขึ้น มีความต้องการซื้อจากตลาดต่างประเทศเข้ามาต่อเนื่อง โดยแนวโน้มราคาข้าวหอมมะลิ ควรอยู่ที่ กก.ละ 50 บาท ข้าวขาว กก.ละ 30-40 บาท ด้วยซ้ำ” แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวกล่าวว่า ขณะนี้มีกระแสในตลาดค้าข้าว ว่า รัฐบาลต้องการเปิดระบายข้าวจำนวน 6 แสนตัน ในราคาตันละ 1.6 หมื่นบาทเท่านั้น โดยผู้ที่ต้องการซื้อข้าวในสต็อกรัฐ จะต้องแลกเปลี่ยนด้วยการทอนเงินส่วนต่างให้ผู้มีอำนาจทางการเมือง ที่มีสิทธิในการอนุมัติขายข้าวตันละ 500 บาท ซึ่งต้องจับตาการเปิดระบายครั้งนี้อย่างใกล้ชิด

"หากมีการอนุมัติขายข้าวสต็อกรัฐบาลในราคา 1.6 หมื่นบาทจริง จะทำให้รัฐบาลขาดทุน จากต้นทุนรับจำนำทันทีตันละ 6,000 บาท เพราะต้นทุนข้าวสารอยู่ที่ 2.2 หมื่นบาท จากปริมาณระบายข้าว 5-6 แสนตัน จะขาดทุนขั้นต่ำ 3,600 ล้านบาท แต่จะมีการได้ประโยชน์จากการขายข้าวรอบนี้ประมาณ 300 ล้านบาท"

แหล่งข่าวให้ข้อสังเกตว่า การเร่งระบายสต็อกข้าวรอบนี้ อาจถูกนำไปเป็นเงื่อนไขทางการเมือง แลกกับเสียงสนับสนุนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เดือนม.ค.-ก.พ.นี้ ซึ่งถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน จากพรรคร่วมรัฐบาลว่า จะให้การสนับสนุนหรือไม่ หลังจากช่วงที่ผ่านมา มีการขัดขวางการระบายสินค้าเกษตรหลายรายการ

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า การระบายข้าวในสต็อกจะมีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายม.ค. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิมช่วงเดือน ก.พ. เพราะเป็นช่วงการสิ้นสุดโครงการประกันรายได้เกษตรกร

เมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา นายซามาเรนดู โมฮันตี นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส จากสถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศ (อีร์รี) ระบุในรายงาน ว่า ราคาข้าวส่งออกมีแนวโน้มที่จะทรงตัวอยู่ ในระดับประมาณ 600 ดอลลาร์ต่อตัน ในระยะอันใกล้นี้ หลังภาวะแห้งแล้ง และน้ำท่วมหนัก ทำให้นาข้าวในอินเดีย และฟิลิปปินส์ได้รับความเสียหายอย่างหนัก และราคาข้าวจะไม่กลับไปที่ 300 ดอลลาร์ต่อตันอีก

ส่วนข้าวไทยทะยานขึ้นมาอยู่ที่ตันละ 607 ดอลลาร์ต่อตัน จากระดับ 525 ดอลลาร์ต่อตัน เมื่อปี 2552 ผลจากการเข้าซื้อข้าวล่วงหน้าของฟิลิปปินส์ และความวิตกว่าอินเดียอาจกลายเป็นผู้นำเข้าข้าวสุทธิ หลังภัยแล้งสร้างความเสียหายให้กับผลผลิตอย่างหนัก

ก่อนหน้านี้ องค์การอาหาร และเกษตรกรรม แห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) ประเมินว่า ปี 2552-2553 ปริมาณข้าวสำรองทั่วโลกจะลดลง 2.7% มาอยู่ที่ 121.1 ล้านตัน เพราะหลายประเทศมีผลผลิตน้อยลง

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@thairiceexporters.or.th


Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.