www.thairiceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

นายกฯส่งสัญญาณ"พาณิชย์" ล้มขายข้าวเอ็มที 1.9 ล้านตัน


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เปิดเผยกรณีที่บริษัท เอ็มที เซ็นเตอร์เทรด จำกัด ซึ่งชนะการประมูลข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล 1.9 ล้านตัน ขอขยายระยะเวลาการขนข้าวออกจากโกดังจาก 5 เดือน เป็น 18 เดือน ว่า รัฐบาลไม่สามารถทำตามข้อเสนอของบริษัทได้ เพราะในขั้นตอนการประมูลแข่งขัน มีการกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ไว้ชัดเจนแล้ว หากบริษัทไม่สามารถทำตามเงื่อนไข ก็คงต้องยกเลิกกันไป และให้คนอื่นเข้ามาทำแทน และในวันที่ 12 ต.ค.นี้ จะหารือกับนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี รองประธาน กขช. เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว และน่าจะได้ข้อสรุปในเรื่องนี้ โดยจะยึดผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก

“เมื่อมีข่าวว่าเรื่องนี้มีปัญหา ผมก็ได้ให้ท่านไตรรงค์ ไปพิจารณาดำเนินการหาข้อเท็จจริง แต่บังเอิญมีการรายงานมาที่ผมว่า บริษัทไม่สามารถทำตามเงื่อนไขได้ก็ควรจะยกเลิก ซึ่งเวลาที่เรามีการประมูลแข่งขัน เงื่อนไขต่างๆ เกี่ยวกับการที่จะซื้อจะขายจะมีความชัดเจนของมันอยู่ ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องล้มกันไป”

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่มีการระบุความเชื่อมโยง ระหว่างกรรมการของบริษัทเอ็มทีฯ กับนักการเมืองบางกลุ่ม โดยระบุว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามระเบียบ โดยมีหลักการใน 2 ประเด็น คือ เงื่อนไขทั้งหลายต้องเป็นประโยชน์กับทางราชการ และการจัดซื้อจัดจ้างต้องเป็นตามระเบียบ

“สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ รัฐบาลต้องดูสองด้านนะครับ พูดตรงๆ ว่า ต้องพยายามไม่ให้ใครมาแสวงหาผลประโยชน์ จากกระบวนการระบายข้าว และต้องป้องกันไม่ให้มีกระบวนการทุบราคาข้าวด้วย" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ส่วนนโยบายการเปิดประมูลข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล จะใช้วิธีการประมูลแบบปิดเหมือนที่ผ่านมาหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หน่วยงานที่ปฏิบัติต้องดำเนินการตามระเบียบที่ปฏิบัติมา

นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า การขยายระยะเวลาขนข้าวให้บริษัทเอ็มทีฯ เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น ทุกอย่างยังปฏิบัติตามเงื่อนไขการซื้อขายเดิมที่ทำไว้ แต่ตนกังวลหากมีการยุติการระบายข้าวล็อตนี้ เกรงว่าอาจมีคนใช้โอกาสนี้ สร้างแรงกดดันราคาข้าวในตลาดตกต่ำลงไปอีก

นายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า หากมีคำสั่งให้ยกเลิกขายข้าวให้แก่บริษัท เอ็มทีฯ กรมฯ ก็จะดำเนินการตามนั้น แต่รัฐไม่สามารถเรียกค่าเสียหายจากบริษัทได้ เพราะยังไม่มีการทำสัญญาซื้อขายและคงไม่ยึดหลักทรัพย์ค้ำประกันซอง เนื่องจากเป็นการเปิดเข้ามาเสนอซื้อ ไม่ใช่วิธีการประมูลแบบปกติ

นายมนัส กล่าวว่า สำหรับการดำเนินการระบายข้าวสารในสต็อกรัฐบาลหลังจากนี้ ยังต้องปฏิบัติตามมติคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ซึ่งกำหนดไว้ 5 แนวทาง คืออาจจะให้ขายในแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) หรืออาจจะให้เสนอซื้อเหมือนเดิมได้ ส่วนวิธีการประมูลเป็นวิธีที่เคยปฏิบัติมาหลายครั้งแล้วไม่สำเร็จ ทั้งยังส่งผลกระทบต่อกระทบต่อราคาข้าวอีกด้วย

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@thairiceexporters.or.th


Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.