รายงานข่าวจากสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ กรุงชิคาโก สหรัฐได้รายงานมายังนางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก ว่า สำนักงานได้ติดตามความคืบหน้ากรณีสหรัฐพัฒนาข้าวพันธุ์ใหม่ โดยคณะวิจัยการเกษตรของมหาวิทยาลัย LOUISIANA STATE UNIVERSITY ในรัฐลุยเซียนา สหรัฐ ได้คิดค้นและพัฒนาข้าวมีกลิ่นหอมพันธุ์ใหม่ขึ้นมา และจดทะเบียนชื่อสายพันธุ์ว่า JAZZMAN RICE (แจ๊ซแมน) เพื่อนำข้าวพันธุ์นี้มาแข่งขันแย่งตลาดข้าวหอมมะลิไทยในสหรัฐ
สถานการณ์ขณะนี้มีข้าวกลิ่นหอมสายพันธุ์ JAZZMAN ที่จำหน่ายในสหรัฐมี 2 แบรนด์ คือ CAJUN COUNTRY ของบริษัท FALCON RICE MILL, INC. ในเมือง CROWLEY รัฐลุยเซียนา ซึ่งวางจำหน่ายมาตั้งแต่เดือนต.ค. 2552 และ ข้าวแบรนด์ JAZZMEN RICE ของบริษัท JAZZMEN RICE, LLC ซึ่งได้นำผลผลิตข้าวพันธุ์ JAZZMAN ในแปลงของมหาวิทยาลัยลุยเซียนา จำนวนประมาณ 150 ตัน มาบรรจุถุงจำหน่าย
ปัจจุบันข้าวกลิ่นหอมแบรนด์ JAZZMEN RICE ของบริษัท JAZZMEN RICE, LLC เริ่มวางจำหน่ายตามร้านชำและซูเปอร์มาร์เก็ตในเขตรัฐลุยเซียนา โดยจำหน่ายปลีกถุงขนาดน้ำหนัก 28 ออนซ์ หรือ 794 กรัม ราคาถุงละ 2.99 ดอลลาร์สหรัฐ และถุงขนาด 25 ปอนด์ ราคา 17.50 ดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ ยังจำหน่ายทางออนไลน์ผ่าน WWW.JAZZMENRICE.COM ซึ่งมีราคาจำหน่ายเป็นราคาเดียวกันกับราคาขายปลีกตามร้านค้าทั่วไป ซึ่งเป็นราคาไม่รวมค่าขนส่งและภาษี ขณะที่ข้าวหอมมะลิไทยขนาดถุง 25 ปอนด์ ราคาขายปลีกอยู่ที่ประมาณ 15.50-19.00 ดอลลาร์สหรัฐ
สำนักงานได้ส่งผู้แทนไปทดลองชิมข้าวพันธุ์ JAZZMAN ภายใต้แบรนด์ JAZZMEN พบว่า มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับข้าวหอมมะลิไทยมาก ในด้านมีความนุ่ม แต่ยังมีความแตกต่างในเรื่องกลิ่นหอม ซึ่งเป็นคนละกลิ่นกับข้าวหอมมะลิไทย มีความเหนียวของข้าวคล้ายกับข้าว SUSHI ญี่ปุ่น และ ขนาดของเมล็ดข้าวหลังการสี จะมีขนาดสั้นแต่มีความป้อมกว่าข้าวหอมมะลิไทยอย่างเห็นได้ชัด
สำนักงานเห็นว่าข้าวพันธุ์ JAZZMAN อาจจะเป็นภัยคุกคามต่อตลาดข้าวหอมมะลิไทยในสหรัฐในอนาคต ซึ่งรัฐบาลควรตระหนักถึงผลกระทบต่อไปที่อาจจะเกิดขึ้นต่อสัดส่วน ตลาดการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยไปสหรัฐ และควรหันมาส่งเสริมและผลักดันการบริโภคข้าวหอมมะลิไทยในตลาดสหรัฐให้มากยิ่งขึ้น
"ควรเตรียมกลยุทธ์เร่งด่วนในการส่งเสริมและการทำ โฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคในสหรัฐจดจำและทราบถึงข้อดี ในด้านคุณภาพความหอม ตลอดจนการให้ความรู้เกี่ยวกับข้าวหอมมะลิไทยให้มากขึ้น ผ่านสื่อทุกช่องทาง ครอบคลุมทั่วประเทศสหรัฐอย่างมีแบบแผน และต่อเนื่อง"
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ |