น.ส.กอบสุข เอี่ยมสุรีย์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวไทยปี 2553 คาดว่าจะไม่ได้ตามเป้าหมาย 9-9.5 ล้านตัน เนื่องจากปริมาณการส่งออกข้าวในช่วงครึ่งปีแรกคาดว่าจะทำได้แค่ 4 ล้านตัน เนื่องจากปริมาณการส่งออกข้าว 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค.) ปีนี้ลดลง 5.15% โดยมีการส่งออกทั้งสิ้นประมาณ 3.37 ล้านตัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ส่งออกได้ 3.56 ล้านตัน
ทั้งนี้ ปริมาณการส่งออกเดือน พ.ค.เพียงเดือนเดียวปริมาณส่งออกติดลบมากถึง 17.9% หรือส่งออก 6.6 แสนตัน จากเดือน พ.ค.ปีที่แล้วส่งออกได้ 8.07 แสนตัน และคาดว่าเดือน มิ.ย.ปีนี้ไทยจะสามารถส่งออกข้าวสูงสุดได้แค่ 7 แสนตันเท่านั้น
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ประเทศไทยส่งออกได้น้อยลง เป็นผลมาจากตลาดโลกยังไม่มีความต้องการข้าวเพิ่ม จากเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาคยุโรปที่ประสบวิกฤตการเงินทำให้ประเทศในแถบแอฟริกาที่|เป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ของไทย ซึ่งใช้เงินสกุลยูโรชะลอการนำเข้าข้าวจากไทย เพราะเงินยูโรอ่อนค่า ทำให้ข้าวไทยมีราคาแพงขึ้น แม้ว่าไทยจะมีปัญหาภัยแล้ง แต่ก็ไม่ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับตลาดโลกเหมือนปี 2551 เพราะตลาดโลกรับรู้ว่าสต๊อกข้าวไทยยังมีสูงมาก
นอกจากนี้ ประเทศเวียดนามซึ่งเป็นคู่แข่งส่งออกข้าวของไทย เริ่มส่งออกข้าวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ส่วนต่างด้านปริมาณส่งออกข้าวไทยและเวียดนามมีช่องว่างน้อยลง โดยการส่งออกในครึ่งปีแรกเวียดนามตั้งเป้าส่งออกสูงถึง 3.4 ล้านตัน ใกล้เคียงกับการส่งออกข้าวของไทยมาก และทั้งปีคาดว่าเวียดนามจะส่งออกได้มากถึง 6 ล้านตัน จากปัจจัยดังกล่าวจึงมีโอกาสสูงที่ไทยจะส่งออกข้าวพลาดเป้า และเสียตำแหน่งการเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่สุดของโลกในอีก 5 ปีข้างหน้า หรืออาจเร็วกว่านั้น
“ใน 2 เดือนล่าสุด เม.ย.-พ.ค. เวียดนามส่งออกข้าวเฉลี่ยต่อเดือนแซงหน้าไทยไปแล้ว โดยเวียดนามส่งออก 7-7.5 แสนตัน ขณะที่ไทยส่งออกได้ 6 แสนกว่าตัน น้อยลงกว่าที่คาดการณ์ ทำให้ช่องว่างน้อยลง” น.ส.กอบสุข กล่าว
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้นำเข้าข้าวหันซื้อข้าวเวียดนามเพิ่มขึ้น ยังคงมาจากช่องว่างทางด้านราคาข้าวของไทยและเวียดนามที่ห่างกันมาก โดยราคาข้าวชนิดเดียวกันนั้น เวียดนามส่งออกตันละ 350 เหรียญสหรัฐ ไทยส่งออกตันละ 430-470 เหรียญสหรัฐ ทำให้ประเทศผู้นำเข้าข้าวหันไปซื้อข้าวเวียดนาม โดยเฉพาะประเทศที่มีปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และประเทศยากจน
พร้อมกันนี้ ยังเป็นผลมาจากราคาธัญพืชตลาดโลกที่ลดลง แต่ราคาข้าวสารตลาดโลกยังทรงตัวสูง ทำให้หลายประเทศหันไปบริโภคธัญพืชอื่นแทนข้าวสาร
น.ส.กอบสุข กล่าวว่า ส่วนของสถานการณ์ราคาข้าว คาดว่าราคาน่าจะยังทรงตัว และไม่ลดลงไปมากกว่านี้จากข่าวเรื่องภัยแล้ง โดยราคาข้าวเปลือกที่เกษตรกรขายให้กับโรงสีขณะนี้อยู่ที่ 7,600-8,000 บาท/ตัน และราคาส่งออกข้าวไทย ณ วันที่ 9 มิ.ย. ข้าวหอมมะลิอยู่ที่ 941 เหรียญสหรัฐ/ตัน ข้าวหอมปทุมธานี 717 เหรียญสหรัฐ/ตัน ข้าวขาว 100% 469 เหรียญสหรัฐ/ตัน ข้าว 5% 439 เหรียญสหรัฐ/ตัน ข้าวนึ่ง 459 เหรียญสหรัฐ/ตัน ข้าวเหนียว 473 เหรียญสหรัฐ/ตัน
ที่มา โพสต์ทูเดย์
|