นายธราดล เปี่ยมพงศ์สานต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกฯ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) จะเข้าหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับแนวทางการระบายข้าวสารในสต็อกของรัฐให้มีความรวดเร็วมากขึ้น คือ แทนที่กขช.มีการอนุมัติระบายข้าวแล้ว จะต้องนำเสนอให้ครม.อีกครั้ง ซึ่งทำให้การระบายข้าวล่าช้าและทุกครั้งจะเป็นข่าวใหญ่ เป็นที่รับรู้ของตลาด เนื่องจากต้องเป็นมติครม. ทำให้กระทบต่อราคาข้าวเปลือกในประเทศ อีกทั้งคู่แข่งต่างจับตาการตัดสินใจของรัฐบาล ดังนั้น การระบายข้าวควรเป็นการดำเนินการตามปกติ คือ ไม่ต้องเสนอครม.อนุมัติอีกหรืออาจเสนอเป็นวาระเพื่อทราบก็ได้

นายไตรรงค์ กล่าวว่า ตนจะเข้าหารือกับนายกฯ ว่า การระบายข้าวสารในสต็อกของรัฐ ไม่จำเป็นต้องนำเรื่องเสนอให้ครม.อนุมัติทุกครั้ง หรืออาจเสนอครม.เป็นเพียงวาระเพื่อทราบเท่านั้นได้หรือไม่ ขณะที่ผู้ลงนามการอนุมัติขายข้าวให้เป็นอำนาจของนายกฯ หรือรองนายกฯ น่าจะเพียงพอแล้ว

อย่างไรก็ตาม เพื่อความโปร่งใสในการระบายข้าว ตนจะเสนอให้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญหรือพ่อค้าครึ่งหนึ่ง และกรรมการ กขช.ครึ่งหนึ่ง เพื่อพิจารณากำหนดว่าการระบายข้าวในแต่ละช่วง ควรกำหนดกรอบราคาไว้ ระหว่างเท่าใดถึงเท่าใด ส่วนการจำหน่ายข้าวหรือการลงนามสัญญาเป็นอำนาจของกระทรวงพาณิชย์เหมือนเดิม

"การระบายข้าวแต่ละครั้ง ไม่ต้องการให้เป็นข่าวใหญ่ เพราะจะมีผลกระทบต่อราคาในตลาด และรัฐบาลจะกำหนดปริมาณและ ระยะเวลา วิธีการระบายข้าวตามความเหมาะสม โดยประเทศต้องได้ประโยชน์สูงสุด"

นายปราโมทย์ วานิชานนท์ กรรมการ กขช.ระบุว่า ตนได้เสนอให้ กขช.ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง ทำหน้าที่ให้คำปรึกษากับ กขช.เกี่ยวกับการระบายข้าวทั้งในแง่ปริมาณและระยะเวลา โดยเฉพาะการระบายข้าว จะต้องมีการวางแผนล่วงหน้าอย่างน้อย 1 ปี ว่าผลผลิตข้าวที่ไทยส่งออกปีละ 9-10 ล้านตันนั้น จะต้องระบายไปที่ตลาดใด ในช่วงเวลาใดและราคาเท่าใด ที่ผ่านมาเวียดนามแย่งตลาดข้าวไทย โดยใช้กลยุทธ์ตกลงขายข้าวล่วงหน้ามาโดยตลอด

แหล่งข่าวจากที่ประชุม กขช. ระบุว่า การประชุม กขช.วันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์เสนอปรับเปลี่ยนแนวทางการระบายข้าวสารในสต็อกของรัฐ โดยเสนอว่าให้คณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวสาร พิจารณาด้วยความระมัดระวัง โดยต้องไม่กระทบต่อภาวะตลาด และให้รายงานรองประธาน กขช. (นายไตรรงค์) ทราบ ก่อนลงนามสัญญา โดยไม่ผ่านมติ ครม.เพื่อให้เกิดความคล่องตัว และมีผู้รู้ในวงจำกัด และรัฐบาลจำเป็นต้องระบายข้าวในสต็อกที่เก็บมา 2-4 ปีแล้ว แต่ กขช.ไม่เห็นชอบกับมติดังกล่าว

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ