แหล่งข่าววงการโรงสีข้าวในพื้นที่จังหวัดภาคกลาง เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า จากการที่รัฐบาลได้ระบายข้าวสารในสต๊อกออกมา ปริมาณไม่ต่ำกว่า 4 ล้านตัน ทำให้โรงสีพื้นที่ภาคกลางจำนวนหนึ่งได้รับผลกระทบ เพราะว่าก่อนหน้านี้ได้ซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาเก็บสต๊อกไว้ตันละ 10,500 บาท หรือคิดเป็นต้นทุนข้าวสารประมาณตันละ 17,000 บาท แต่รัฐบาลได้ปล่อยข้าวสารออกมาตันละ 12,000 บาท ทำให้ราคาข้าวในตลาดไม่มีการปรับตัวขึ้นเลย โรงสีที่เก็บสต๊อกไว้จึงได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า หากขายเวลานี้จะขาดทุนทันทีตันละ 5,000 บาท
 
ด้านนายจุ้งเชียง เฉิน กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็มที เซ็นเตอร์เทรด จำกัด ในเครือเม้งไต๋ กล่าวว่าจากการที่บริษัทเอ็มทีฯยื่นขอขยายเวลารับมอบข้าวจาก 5 เดือน เป็น 18 เดือน หากไม่ขยายได้ตามที่บริษัทยื่นขอ โดยอาจจะขยายให้ 1 ปีหรือ 12 เดือน พอรับได้ แต่อยากได้รับคำตอบโดยเร็วเพราะบริษัทต้องไปวางระบบการจัดการใหม่ เช่น ประชุมกับโรงสีที่ว่าจ้างให้ปรับปรุงคุณภาพข้าวสาร รถขนส่งระหว่างโกดังไปโรงสี และจากโรงสีไปท่าเรือที่จะขนส่งไปประเทศจีน ทั้งจะต้องแจ้งไปที่บริษัท กวางตง กวางหง อิมปอร์ต เอ็กซ์ปอร์ต จำกัด ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจจีนที่รับซื้อข้าวครั้งนี้ให้ทราบถึงผลการขยายเวลาของรัฐบาลไทยด้วย
 
เขากล่าวการซื้อข้าวประมาณ 1.9 ล้านตัน โดยแบ่งเป็นข้าวที่อยู่ในคลังสินค้าขององค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) จำนวน 1.04 ล้านตัน เป็นข้าวขาว 5% จำนวน 754,669.92 ตัน และข้าวหอมปทุม จำนวน 270,137.90 ตัน และข้าวจากคลังสินค้าขององค์การคลังสินค้า (อคส.)เป็นข้าวขาว 5 % จำนวน 845,783 ตัน    จะต้องใช้เงินค้ำประกัน 5% ของมูลค่าข้าวทั้งสิ้น 1,180 ล้านบาท โดยรัฐวิสาหกิจจีนพร้อมที่จะจ่ายทันที
 
"สำหรับการเป็นตัวแทนขายข้าวให้กับรัฐวิสาหกิจจีนครั้งนี้ บริษัท เอ็มทีฯจะได้รับรายได้จากการเป็นตัวแทนในการซื้อขายข้าวประมาณตันละ 1,000 บาท โดยบริษัทจะต้องออกค่าใช้จ่ายในการขนส่งข้าวจากโกดังไปโรงสี และจากโรงสีไปท่าเรือ เสียค่าปรับปรุงสภาพข้าวสาร ค่าถุงใส่ข้าว อาจจะต้องซื้อข้าวใหม่มาปรับปรุงสภาพข้าวในโกดังให้ดีขึ้น เพราะอาจจะมีข้าวบางส่วนมีเสื่อมสภาพจะต้องขายไปเป็นอาหารสัตว์แต่คาดว่าจะมี 0.3-0.4% เมื่อหักค่าใช้จ่ายเรียบร้อยแล้วบริษัทจะได้กำไรประมาณ 200 ล้านบาท"
 
โดยทางรัฐวิสาหกิจจีนได้มีแผนที่จะนำข้าวไทยไปช่วยเหลือประเทศที่ 3 และบางส่วนอาจจะใช้เป็นความมั่นคงทางด้านอาหารภายในประเทศ ปัจจุบันจีนมีสต๊อกข้าวทั้งหมดประมาณ 100 ล้านตัน เทียบกับจำนวนประชากรแล้วไม่ได้มากมาย หากรัฐบาลล้มเลิกสัญญาการขายจะส่งผลกระทบกับตลาดทันที และจะทำให้การค้าระหว่างไทย-จีน มีปัญหาได้ เพราะตนเองเป็นแค่นายหน้าเท่านั้น ผู้ที่ซื้อก็คือรัฐวิสาหกิจจีน อยากให้รัฐบาลคิดให้รอบคอบ ไม่เช่นนั้นจะเป็นไปตามเกมผู้ส่งออกที่จะทำให้ข้าวในตลาดราคาตก
 
นายเฉิน กล่าวต่ออีกว่า  นายเฉิน เชียง  ผู้จัดการทั่วไปบริษัท กวางตง กวางหง อิมปอร์ท เอ็กซ์ปอร์ท จำกัด สำนักงานอยู่เมืองกวางเจา ประเทศจีน ได้มีหนังสือการยืนยันซื้อข้าวจากคลังรัฐบาลไทย 1.9 ล้านตัน โดยหนังสือได้ลงวันที่ 30 กันยายน 2553

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ