ราคาข้าวขาลงป่วนทั้งวงการ ลูกค้าต่างประเทศเบี้ยวรับมอบข้าว ขณะที่ผู้ส่งออกยึกยักไม่รับมอบข้าวจากโรงสี อ้างคุณภาพไม่ตรงตามที่สั่งซื้อ แนะรัฐบาลสร้างเสถียรภาพราคา เผยเบื้องลึกราคาข้าวไทยดิ่ง เหตุทั้งภาครัฐ-เอกชน และเทรดเดอร์ข้าวโลก เก็งตลาดผิด ทั่วโลกจะแห่ซื้อข้าวไทย หวังอินเดียนำเข้าข้าว แต่พลิกล็อก หลังตรุษจีนอินเดียไม่ขยับเปิดนำเข้า

แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าว เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ภาวะราคาข้าวขาลง ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงปัจจุบันคือได้เกิดการเบี้ยวสัญญาซื้อขายระหว่างกันไม่ว่าจะเป็นระหว่างผู้ส่งออกกับโบรกเกอร์ค้าข้าว หรือโบรกเกอร์กับลูกค้าปลายทาง รวมถึงระหว่างผู้ส่งออกกับผู้ประกอบการโรงสีข้าวในประเทศ

นางสาวกอบสุข เอี่ยมสุรีย์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ช่วงราคาข้าวขาลงใหม่ๆ ลูกค้ายังสั่งซื้ออยู่ ตามราคากลไกตลาดที่ลดลง แต่วันนี้ลูกค้าหยุดซื้อเลยเพราะเขาไม่ทราบว่าราคาจะลงไปอีกเมื่อใด ทั้งนี้เพื่อรอดูทิศทางราคา นอกจากนี้ลูกค้ายังได้ขอให้ลดราคาข้าวที่ซื้อไว้ช่วงราคาแพงแต่ยังไม่ได้รับมอบลง รวมถึงลูกค้าบางรายไม่ยอมรับสินค้า โดยยืนยันว่าไม่เบี้ยว แต่ยังไม่ต้องการรับมอบเวลานี้ ซึ่งผู้ส่งออกต้องใช้วิธีเจรจาควบคู่กันไป หรือหากเป็นลูกค้าจรอาจจะขู่ดำเนินการฟ้องร้อง

"ราคาข้าวลงทุกฝ่ายเจ็บตัวกันหมดเพราะส่วนหนึ่งยังมีข้าวราคาสูงอยู่ในสต๊อก ส่วนจะขยับขึ้นเมื่อใดนั้น ขึ้นอยู่กับการกลับเข้ามาสั่งซื้อของผู้ซื้ออีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคงเป็นช่วงที่เขามั่นใจว่าราคาข้าวไทยหยุดไหลลงแล้ว"

ด้านนายสมพงษ์ กิตติเรียงลาภ ประธานบริษัท พงษ์ลาภ จำกัด กล่าวยอมรับว่าเวลานี้บริษัทลูกค้ายึกยักไม่รับมอบข้าวแล้ว โดยได้ขายข้าวขาว5% ผ่านโบรกเกอร์ไปแอฟริการาคาตันละ 515 ดอลลาร์สหรัฐฯ ประมาณ 30,000 ตัน แต่ข้าวขาว 5% ราคาลดลงเหลือตันละ 490 ดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ลูกค้าไม่ยอมเปิดแอล/ซีและส่งเรือมารับมอบข้าว ตามกำหนดจะต้องส่งต้นเดือนมีนาคมนี้
 
ด้านแหล่งข่าวจากผู้ประกอบการโรงสีข้าว กล่าวว่า ผู้ประกอบการโรงสีข้าวได้รับผลกระทบเป็นลูกโซ่จากผู้ส่งออกเช่นเดียวกัน โดยเวลานี้โรงสีหลายโรงประสบปัญหาผู้ส่งออกไม่รับมอบข้าวที่สั่งซื้อกันไว้ช่วงราคาอยู่ประมาณกระสอบละ 1,800  บาท (ข้าวขาว 100% ขนาดบรรจุ 100 กก.) แต่เวลานี้ลงเหลือกระสอบละ 1,560 บาท ซึ่งบางรายอ้างข้าวที่โรงสีไปส่งถึงโกดังนั้นคุณภาพไม่ตรงตามที่ตกลงกันไว้ทำให้โรงสีต้องเสียค่าใช้จ่ายขนข้าวกลับ

"การอ้างเหตุผลว่า คุณภาพไม่ตรงตามที่ตกลงสั่งซื้อเกิดขึ้นเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาจะมีการเจรจาอาจจะลดราคาลง ถึงขั้นยกเลิกสั่งซื้อเลยนั้นมีไม่มาก แต่ช่วงราคาข้าวขาลงมีมากขึ้น"

นายสมบัติ เฉลิมวุฒินันท์ ประธานบริษัท เอเชียโกลเด้นไรซ์ จำกัด กล่าวว่า รัฐบาลต้องดำเนินมาตรการให้ราคาข้าวมีเสถียรภาพ ไม่ว่าจะเป็นการให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) หรือองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ซื้อข้าวเปลือกหรือข้าวสารเก็บเข้าสต๊อก

ทั้งนี้สาเหตุที่สถานการณ์ราคาข้าวตกต่ำลง และยังไม่ปรับขึ้นมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน อาทิ กระแสข่าวรัฐบาลไทยจะระบายสต๊อกข้าว 2 ล้านตัน และได้ประกาศเปิดประมูลขายล็อตใหญ่ 500,000 ตัน เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ จนทำให้ผู้ส่งออกกดราคารับซื้อข้าวจากโรงสีลงอย่างฮวบฮาบ แต่ในที่สุดรัฐบาลได้ยกเลิกการประมูล

อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้ วงการค้าข้าวทั้งในไทยและระดับโลก ต่างมองในทิศทางเดียวกันว่าราคาข้าวปีนี้จะดีกว่าและมีความคล่องตัวกว่าปี 2552 แต่ไม่ดีเท่าปี 2551 รวมทั้งคาดการณ์กันว่าประเทศอินเดียซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 3 นอกจากไม่ส่งออกแล้วอาจต้องนำเข้าข้าวอีกด้วย ขณะที่ฟิลิปปินส์เปิดประมูลนำเข้าข้าวปี 2553 เร็วกว่ากำหนดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2552
 
"ช่วงต้นปีทั้งผู้ส่งออก โรงสี ต่างซื้อข้าวเก็บเข้าสต๊อก แต่หลังเทศกาลตรุษจีนคือปลายเดือนกุมภาพันธ์ เริ่มมีข่าวว่าอินเดียจะไม่นำเข้าข้าวปีนี้ ผนวกกับเวียดนามลดค่าเงินด่องทำให้ข้าวเวียดนามราคาถูกกว่าข้าวไทยตันละเกือบ 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์เปิดประมูลขายข้าวครั้งที่ 2 ปริมาณ 500,000 ตัน ผู้ซื้อเริ่มสบโอกาสกดราคาซื้อลง"

ด้านความเคลื่อนไหวของชาวนาซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากราคาข้าวตกต่ำนั้นนายวิเชียร พวงลำเจียก อุปนายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่าแม้ว่าช่วงนี้รัฐบาลยังไม่ได้รับหลักการตามที่ชาวนาเสนอคือขอเพิ่มราคาประกันรายได้ข้าวเปลือกเจ้าจากตันละ 10,000 บาท เป็นตันละ 12,000 บาท เพิ่มปริมาณจากครัวเรือนละ 25 ตัน เป็น 40 ตัน แต่ชาวนาจะยังไม่เคลื่อนไหวรอให้กลุ่มเสื้อแดงหยุดก่อนกลุ่มชาวนาจึงจะออกมาเรียกร้อง

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ