องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) ระบุในรายงานว่า ผลผลิตข้าวทั่วโลกในปีนี้ อาจลดลงต่ำกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ หลังจากสภาพอากาศที่แห้งแล้งอย่างหนักและยืดเยื้อในภูมิภาคแม่น้ำโขงส่งผลกระทบต่อพื้นที่เพาะปลูกและทำให้ผลผลิตข้าวไม่ได้ตามเป้าที่วางไว้

เอฟโอโอ คาดการณ์ภายหลังปรับลดตัวเลขประมาณการผลผลิตข้าวในเอเชียรวมทั้งไทย ว่า ผลผลิตข้าวปีนี้ อาจจะอยู่ที่ 704.4 ล้านตัน เทียบกับเดือนเม.ย. ที่คาดการณ์ผลผลิตข้าวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 710 ล้านตัน ขณะที่คาดว่า ความต้องการข้าวทั่วโลกจะอยู่ที่ 461 ล้านตัน เพิ่มจากเดือนเม.ย.ที่คาดการณ์ไว้ที่ 454 ล้านตัน

ทั้งนี้ รัฐบาลไทย ระบุเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาว่า สภาพอากาศที่แล้งจัด ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงแห้งขอดและอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปี ส่งผลกระทบต่อการทำเกษตรกรรมทุกประเภท โดยเฉพาะการปลูกข้าวทั้งในจีน พม่า กัมพูชา และเวียดนาม ตลอดจนพื้นที่ต่างๆ ที่ต้องพึ่งพาระบบการชลประทานเพื่อปลูกข้าวเลี้ยงประชากร 300 ล้านคน

รูปแบบของฝนที่ตกลงมาในฤดูมรสุมของเอเชียจะส่งผลโดยตรงต่อราคาข้าวในตลาด โดยปริมาณฝนที่ตกลงมาจะเป็นตัวชี้วัดศักยภาพของอินเดียว่า จะหวนกลับมาสู่ตลาดโลกได้อีกครั้งในฐานะผู้ส่งออกข้าวได้หรือไม่ และจะเป็นตัวชี้วัดถึงศักยภาพการส่งออกข้าวของประเทศอื่นๆ รวมทั้งไทยและปากีสถานด้วย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของอินเดียระบุในเว็บไซต์ว่า ปริมาณน้ำในฤดูมรสุมของอินเดีย ซึ่งเป็นแหล่งน้ำหลักสำหรับเกษตรกร 235 ล้านคนในประเทศ วานนี้ (14 ก.ค.) ต่ำกว่าปกติ 13% และต่ำกว่าปกติของช่วงเดือนมิ.ย. 16%

ขณะที่ ราคาข้าวซื้อขายล่วงหน้าที่ตลาดชิคาโก ซึ่งพุ่งขึ้นในช่วงเดือนธ.ค.ที่ระดับ 16.27 ดอลลาร์ต่อ 100 ปอนด์ เพราะกระแสความวิตกกังวลว่าอินเดีย อาจจะกลายสภาพเป็นผู้นำเข้าข้าวเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ทศวรรษ เคลื่อนไหววานนี้ (15 ก.ค.) ที่ 9.84 ดอลลาร์ต่อ 100 ปอนด์

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ