นายนิกร จำนง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ ว่า นายนิกร กล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้ประเมินสถานการณ์ผลผลิตสินค้าเกษตร โดยสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ คาดว่าจะสร้างความเสียหายกับข้าวบ้างเล็กน้อย เนื่องจากนโยบายของกระทรวงเกษตรฯ ที่ให้เลื่อนทำนาปีออกไปอย่างน้อย 1 เดือน ทำให้ข้าวในบางพื้นที่ได้รับผลกระทบ แต่จะไม่ส่งผลกระทบกับผลผลิตโดยรวม ในขณะที่สินค้าผักในระหว่างนี้ มีราคาปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากผลผลิตมีน้อย และจะเข้าสู่เทศกาลกินเจ

สำหรับดัชนีราคาสินค้าเกษตรเดือน ส.ค. 2553 อยู่ที่ 158.29 สูงขึ้น 31.06% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยหมวดพืชอาหารและธัญพืชเพิ่มขึ้น 28.33% หมวดพืชน้ำมัน เพิ่มขึ้น 14.86% หมวดพืชไม้ยืนต้น เพิ่มขึ้น 59.58% หมวดพืชไม้ผล เพิ่มขึ้น 41.84% หมวดพืชผัก เพิ่มขึ้น 38.31% หมวดปศุสัตว์เพิ่มขึ้น 8.29% หมวดประมงเพิ่มขึ้น 6.36% และหมวดพืชพลังงาน เพิ่มขึ้น 44.79%

อย่างไรก็ตาม ดัชนีราคาสินค้าเกษตรเดือน ส.ค.เทียบกับเดือน ก.ค.ลดลง 0.47% เนื่องจากมีสินค้าที่สำคัญที่ราคาลดลง คือ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง ไก่เนื้อ และไข่ไก่ โดยในส่วนของยางพาราที่ราคาลดลงนั้นเป็นไปตามราคาตลาดโลก ที่มีปัจจัยด้านลบจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันปรับตัวลดลง

ส่วนผลไม้ราคาลดลงเนื่องจากผลผลิตจากภาคใต้ออกสู่ตลาดจำนวนมาก แต่ในเดือน ก.ย.นี้เชื่อว่าสถานการณ์ราคาดีขึ้น เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดลดลงยกเว้นลองกอง ที่อาจจะยังคงมีผลผลิตออกสู่ตลาดมาก

ทั้งนี้ ในเดือน ก.ย. คาดว่าดัชนีราคาจะปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากสินค้าสำคัญหลายชนิดออกสู่ตลาดมากขึ้น เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปาล์มน้ำมัน ยางพารา และสับปะรด รวมทั้งข้าวนาปีที่ผลผลิตเริ่มทยอยออกสู่ตลาดบ้างแล้ว

สำหรับภาพรวมดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรพบว่า ลดลง 4.21% โดยผลผลิตลดลง คือ มันสำปะหลัง ทุเรียน ลำไย ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาลผลิต ส่วนสินค้าที่ผลผลิตสูงขึ้น คือ ข้าวนาปรัง ปาล์มน้ำมัน สับปะรด สุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา สูงขึ้น 15.59% ในเดือน ก.ย.นี้ คาดว่าดัชนีผลผลิตในภาพรวมจะยังคงสูงขึ้น จากเดือนที่ผ่านมา เพราะมีผลผลิตสินค้าสำคัญหลายชนิดจากฤดูกาลใหม่เริ่มทยอยออกสู่ตลาด เช่น ข้าวนาปี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และถั่วต่างๆ

ที่ประชุมยังได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามการปรับราคาเช่าที่ดิน ที่นาของเกษตรกร ตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการในการประชุม ครม.วันอังคารที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้ประสานไปยังสมาคมชาวนาไทย เพื่อรายงานข้อมูลดังกล่าวด้วย หากการปรับค่าเช่าที่ดังกล่าวสูงเกินไป ในอนาคตกระทรวงเกษตรฯ อาจมีนโยบายควบคุมภายใต้กฎหมายการคุ้มครองที่ดินเพื่อการเกษตร

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ