นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังประชุมคณะอนุกรรมการกำหนดเกณฑ์ราคาอ้างอิง ตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ครั้งที่ 23/2553 ว่า เกณฑ์ราคากลางอ้างอิงข้าวเปลือกระหว่างวันที่ 19-25 กรกฎาคม 2553 ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 7,926 รัฐบาลต้องจ่ายเงินชดเชยชาวนาตันละ 2,074 บาท ข้าวเปลือกปทุมธานี ตันละ 10,964 บาท ชดเชยตันละ 236 บาท และข้าวเปลือกเหนียวตันละ 14,655 บาท ซึ่งรัฐบาลไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยข้าวชนิดนี้ เพราะราคาในตลาดสูงกว่าราคาประกันที่รัฐบาลกำหนด อีกทั้งราคายังสูงกว่าข้าวหอมมะลิด้วย หลังจากชาวนาบางส่วนหันไปปลูกข้าวหอมมะลิมากขึ้น และผู้นำเข้าต่างประเทศก็สั่งซื้อข้าวเหนียวเพิ่มมากขึ้น พร้อมยอมรับว่าการส่งออกข้าวไทยยังคงมีซบเซาต่อเนื่อง หลังจากเวียดนามพยายามตัดราคาขายข้าวขาวแข่งขันกับไทย ในขณะที่ผู้นำเข้าข้าวต่างประเทศส่วนใหญ่ต่างชะลอคำสั่งซื้อข้าว แม้องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) คาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวทั่วโลกจะลดลงต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งไทยอาจลดลงกว่า 4 ล้านตันข้าวเปลือก โดยเป็นผลจากปรากฏการณ์เอลนิโญ 

นายยรรยง กล่าวอีกว่า จากปัญหาดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์จึงได้ปรับยุทธศาสตร์ข้าวใหม่ โดยมุ่งเน้นการส่งออกข้าวคุณภาพสูง การเพิ่มมูลค่าข้าว พร้อมหลีกเลี่ยงการทำตลาดเดียวกับเวียดนาม ทำให้ยอดการส่งออกข้าวโดยรวมของปีนี้ จะต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่ 8.5-9 ล้านตัน แต่มูลค่าจะสูงขึ้นแน่นอน เนื่องจากจะตั้งคณะทำงานพิจารณาจัดคุณภาพข้าวให้เหมาะสมกับตลาด เช่น อาจกำหนดมาตรฐานข้าวหอมมะลิส่งออกเป็นร้อยละ 95-96 จากเดิมมีเพียงร้อยละ 92 เท่านั้น รวมถึงคณะทำงานส่งเสริมและให้ข้อมูลการค้าข้าว เนื่องจากตลาดค้าข้าวมีความอ่อนไหวต่อข่าวต่าง ๆ สูงมาก ส่งผลกระทบต่อไทยซึ่งเป็นตลาดค้าข้าวอันดับ 1 ของโลก

ที่มา สำนักข่าวไทย