รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า วันนี้ (18 ก.พ.) กรมการค้าต่างประเทศจะออกประกาศเชิญชวนให้ผู้ส่งออกเข้ามาประมูลข้าวสารในสต็อกรัฐบาล ล็อตแรกจำนวน 5 แสนตัน แยกเป็นข้าวขาว 3.5 แสนตัน และข้าวหอมปทุมธานี 1.5 แสนตัน โดยจะเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาวันที่ 23 ก.พ. และเปิดซองวันที่ 24 ก.พ. หลังจากนั้นจะเปิดประมูลอีก 5 แสนตันใน 2 สัปดาห์ และระบายในตลาดล่วงหน้าอีก 5 แสนตัน และเปิดประมูลอีกรอบ 5 แสนตัน รวมทั้งหมด 2 ล้านตัน ก่อนที่ผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่จะออกมา

การประมูลข้าวล็อตแรก 5 แสนตัน ต้องจับตาว่าจะได้ราคาดี เหมือนการประมูลครั้งแรกหรือไม่ เพราะหลังจากที่คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ได้เห็นชอบกับหลักเกณฑ์การหักค่าเสื่อมสภาพข้าวใหม่ เป็นเปอร์เซ็นต์ตามสภาพข้าวรายปี จากเดิมค่าเสื่อมปีละ 10 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นอัตราใหม่โดยข้าวที่เก็บระยะเวลา 1 ปี หักค่าเสื่อม 5% หรือ 25.96 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ข้าวที่เก็บ 2 ปี หักค่าเสื่อม 15% หรือ 77.88 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ข้าวที่เก็บ 3 ปี หักค่าเสื่อม 30% หรือ 155.76 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ข้าวที่เก็บ 4 ปี หักค่าเสื่อม 50% หรือ 259.59 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และข้าวที่เก็บนาน 5 ปี ให้เปิดระบายเพื่อใช้ในโรงงานอาหารสัตว์แทน เพราะจะถูกหักราคามากกว่า 50%

สำหรับข้าวที่จะเปิดระบายครั้งแรกนี้ ส่วนใหญ่เป็นข้าวที่เก็บมาแล้วประมาณ 2 ปี ทำให้หักค่าเสื่อมได้สูงถึง 77.88 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน หรือเฉลี่ยตันละ 2,570 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ) โดยในการเปิดประมูลข้าว จะคิดราคาเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วันเป็นเกณฑ์ ทำให้ราคาข้าวขาวที่หักค่าเสื่อมสภาพออกไปแล้ว จะอยู่ที่ราคาเฉลี่ยตันละ 13,500 บาท

นางสาวกอบสุข เอี่ยมสุรีย์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ราคาข้าวปรับตัวลดลงในสัปดาห์นี้ มาจากสาเหตุหลัก 2 ประการได้แก่ การลดค่าเงินด่องของเวียดนาม และปัญหาผู้นำเข้าในต่างประเทศชะลอการนำเข้า เพราะคาดว่าราคาจะปรับลดลงอีก

ส่วนการเปิดระบายข้าวสต็อกรัฐบาลขณะนี้ อาจส่งผลให้ราคาปรับตัวลดลงอีก โดยการเปิดซองประมูลทั่วไปจะส่งผลต่อราคาตลาด อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมราคาข้าวและสินค้าเกษตรยังอยู่ในระดับสูง เพราะปัจจัยแวดล้อมอื่น เช่น โรคระบาดในพืช และความแห้งแล้ง

สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย รายงานราคาข้าว ล่าสุด 17 ก.พ.2553 ข้าวหอมมะลิชั้น 1 ตันละ 1,116 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับราคาเมื่อสัปดาห์ก่อน ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ตันละ 570 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากตันละ 585 ดอลลาร์สหรัฐ ข้าวขาว 5% ตันละ 539 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจาก ตันละ 555 ดอลลาร์สหรัฐ ข้าวขาว 25% ตันละ 486 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากตันละ 493 ดอลลาร์สหรัฐ

นายยุคล ลิ้มแหลมทอง ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวหลังการประชุมคณะกรรมการติดตามเฝ้าระวังการนำเข้าสินค้าเกษตรภายใต้ข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียนหรืออาฟตา ว่า ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาตามแนวชายแดนมีการลักลอบนำเข้าข้าวเปลือกในลักษณะกองทัพมดจำนวนมาก ซึ่งข้าวเปลือกที่จับกุมได้ ตามขั้นตอนกรมศุลกากร จะต้องส่งตรวจสอบคุณภาพและจีเอ็มโอ หากพบจีเอ็มโอ กรมวิชาการเกษตรสั่งการให้ทำลายได้ทันที แต่ในกรณีไม่พบจีเอ็มโอต้องส่งคืนกรมศุลกากร เพื่อประมูลจำหน่าย ที่ประชุมเห็นว่า การประมูลจำหน่ายข้าว อาจส่งผลต่อราคาข้าวในประเทศ และเสี่ยงต่อการนำข้าวดังกล่าวไปจำหน่ายให้กับเกษตรกรเพื่อขยายพันธุ์ต่อไป

กระทรวงเกษตรฯจะเสนอรายงานให้ ครม.รับทราบและขอความร่วมมือกับกรมศุลกากร ออกประกาศให้ทำลายข้าวเปลือกนำเข้าหรือส่งออกได้ เช่นเดียวกับประกาศการทำลายซากสัตว์ผิดกฎหมาย ที่กรมปศุสัตว์สามารถทำลายได้ทันที

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ