นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนได้หารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าวแห่งชาติ (กขช.) ถึงแนวทางแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ โดยเสนอให้ กขช.อนุมัติรับซื้อราคาอ้างอิง และเพิ่มขึ้น 200 บาทต่อตันทุกสัปดาห์ จนกว่าราคาจะมีเสถียรภาพ แต่นายกฯ ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอ โดยเห็นว่ารูปแบบดังกล่าวไม่ใช่แนวทางในนโยบายประกันรายได้ แต่กลับไปคล้ายโครงการจำนำเหมือนเดิม ตนจึงสั่งให้นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ หารูปแบบอื่นในการยกระดับราคาต่อไป

"ได้สอบถามท่านนายกฯ แล้ว ก็บอกว่าไม่เห็นว่าเพราะถ้าซื้อนำตลาดก็ไม่ใช่ประกันรายได้ ซึ่งไม่ใช่นโยบายของรัฐบาล กระทรวงพาณิชย์จึงต้องไปหาแนวทางอื่นๆ นำเสนอให้ กขช.พิจารณาโดยเร็ว" นางพรทิวากล่าว

ทั้งนี้ วิธีการแก้ปัญหาข้าวราคาตกต่ำเบื้องต้น ได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศ จัดทำแผนโรดโชว์การขายข้าวไปตลาดต่างประเทศผ่านรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) และการพิจารณากำหนดราคาฐาน (Floor Price) ที่จะบอกว่า หากราคาข้าวต่ำกว่าที่กำหนดไว้ รัฐพร้อมจะรับซื้อทั้งหมด ในราคาฐานทันที

นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่า สมาคมไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลตั้งโต๊ะซื้อข้าวในราคาเท่ากับราคาอ้างอิง เนื่องจากเกณฑ์ราคาอ้างอิง เป็นราคาที่ใกล้เคียงกับตลาด ไม่สามารถดึงราคาข้าวที่กำลังตกต่ำให้สูงขึ้นได้ อีกทั้งราคาอ้างอิงเปลี่ยนแปลงทุก 7 วัน ทำให้ราคารับซื้อและราคาตลาดผันผวน ดังนั้น ต้องการให้ภาครัฐกำหนดราคารับซื้อขึ้นมาโดยตรง ในราคาสูงกว่าตลาด เพื่อช่วยดึงราคาข้าวให้สูงขึ้น

นางสาวกอบสุข เอี่ยมสุรีย์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ราคาข้าวสัปดาห์นี้ปรับตัวสูงขึ้น 34 ดอลลาร์ เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนปรับตัวแข็งค่าขึ้น จึงต้องปรับราคาตาม ซึ่งไม่สะท้อนภาวะตลาดที่แท้จริง เพราะคำสั่งซื้อยังน้อย คาดว่าการส่งออกชะลอตัวต่อเนื่อง โดยผู้ซื้อในต่างประเทศต้องการรอดูสถานการณ์

สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยได้รายงานราคาข้าว ณ วันที่ 17 มี.ค. ว่า ราคาข้าวหอมปทุมธานีตันละ 722 ดอลลาร์ ลดลงจาก 749 ดอลลาร์ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ตันละ 542 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากตันละ 538 ดอลลาร์ ข้าวขาว 5% ตันละ 500 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากตันละ 497 ดอลลาร์

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ