สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยของฟิลิปปินส์กำลังพยายามเดินทางเข้าไปให้การช่วยเหลือยังหมู่บ้านต่างๆ บริเวณชายฝั่งทางด้านตะวันออกที่ถูกพายุไต้ฝุ่นเมกีพัดถล่มเมื่อวันจันทร์ที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่กล่าวว่าบ้านเรือนส่วนใหญ่ถึง 90% ถูกทำลายทั้งหมด เมกีซึ่งเป็นพายุที่มีความรุนแรงที่สุดในรอบ 4 ปีของฟิลิปปินส์ ขึ้นฝั่งที่เกาะลูซอนด้วยความเร็วลมเกินกว่า 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จัดเป็นพายุไต้ฝุ่นระดับ 5 หรือซูเปอร์ไต้ฝุ่น ซึ่งเป็นระดับที่มีความรุนแรงสูงสุด

กระทรวงเกษตรของฟิลิปปินส์ประเมินในเบื้องต้นว่า มีผลผลิตข้าวประมาณ 10% หรือประมาณ 105,000 ตัน ของผลผลิตข้าวทั้งหมดในบริเวณหุบเขาคากายัน แห่งผลิตข้าวขนาดใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ ถูกทำลาย ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าสถานการณ์เลวร้ายที่สุดที่ทางการประเมินไว้ คือ 230,000 ตันอยู่ค่อนข้างมาก

อย่างไรก็ตาม นายเดนนิส อาราอุลโล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของฟิลิปปินส์กล่าวว่า ตัวเลขประมาณการเบื้องต้นเป็นการประเมินอย่างกลางๆ เท่านั้น และกล่าวเสริมว่าความสูญเสียต่อผลผลิตในจังหวัดอื่นยังไม่ได้นำมานับรวม ขณะที่นายฟาอุสติโน ได ผู้ว่าราชการจังหวัดอิซาเบลา ซึ่งมีกำลังการผลิตข้าวคิดเป็น 60% ของปริมาณข้าวทั้งหมดที่ผลิตได้ในหุบเขาคากายัน กล่าวว่าความเสียหายเลวร้ายกว่านั้นมาก "เราควรจะผลิตข้าวได้ 575,000 ตัน แต่เพราะไต้ฝุ่น (เมกี) ทำให้มีข้าว 385,000 ตันได้รับผลกระทบ"

 ข้อมูลจากสำนักงานสถิติการเกษตรของฟิลิปปินส์ระบุว่า ในปี 2552 หุบเขาคากายันผลิตข้าวได้ 2.1 ล้านตัน คิดเป็น 13% ของปริมาณข้าว 16 ล้านตันที่ฟิลิปปินส์ผลิตได้ ฟิลิปปินส์เป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก ดังนั้นความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่นอาจส่งผลให้ฟิลิปปินส์ต้องสั่งซื้อข้าวในปริมาณที่มากขึ้นกว่าที่คาดไว้เดิมในปี 2554 และมีโอกาสทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นด้วย

ด้านสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตจากพายุไต้ฝุ่นเมกี ว่าจนถึงเช้าวันอังคารมีทั้งสิ้น 10 ราย นายเบนิโต ราโมส ผู้อำนวยการบริหารของสำนักงาน กล่าวว่ามี 3 รายเสียชีวิตจากการจมน้ำในเมืองมาโคนาคอน ซึ่งเป็นเส้นทางผ่านของพายุเมกี และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกเกือบ 20 ราย ส่วนใหญ่บาดเจ็บจากการโดนแผ่นกระจกบาด พร้อมกับกล่าวว่าการเตรียมการที่ดีและการอพยพผู้คนเกือบ 8,000 คนออกจากพื้นที่ช่วยจำกัดจำนวนผู้เสียชีวิต

หลังจากเคลื่อนตัวออกจากประเทศฟิลิปปินส์เข้าสู่ทะเลจีนใต้ พายุเมกีได้รับการพยากรณ์ว่าจะขึ้นฝั่งอีกครั้งทางตอนใต้ของประเทศจีนในวันศุกร์หรือเสาร์ที่จะถึงนี้ สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า แม้จะยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้อย่างแม่นยำว่าพายุไต้ฝุ่นจะพัดขึ้นฝั่งที่ใดและเวลาใด แต่เจ้าหน้าที่ทางการจีนเตือนว่าบริเวณตอนกลางและตะวันตกของมณฑลกวางตุ้งเป็นจุดเสี่ยงที่สุด

กระทรวงมหาดไทยและคณะกรรมาธิการบรรเทาสาธารณภัยของจีนได้ออกประกาศเร่งด่วนเมื่อวันจันทร์ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่บริเวณชายฝั่งทางตอนใต้ รวมถึงเมืองไห่หนาน กวางตุ้ง กวางซี และฟูเจียน เตรียมปฏิบัติการช่วยเหลือและบรรเทาภัยพิบัติ ในกรณีที่เกิดน้ำท่วมและโคลนถล่ม

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ