นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการระบายข้าวสต็อกรัฐบาล เปิดเผยว่า วานนี้ (22 ก.พ.) กระทรวงได้เปิดให้ผู้ส่งออกยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าว ในสต็อกรัฐบาลปริมาณ 5 แสนตัน ตามแผนที่กำหนดไว้ แม้จะมีความเห็นจากนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ที่แสดงความไม่เห็นด้วยการระบายข้าวดังกล่าว

การจะยกเลิกแผนการระบาย ต้องขึ้นกับมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่กำหนดประชุม 25 ก.พ.นี้ การหารือในที่ประชุม กขช.จะพิจารณาราคาเสนอซื้อจากผู้ส่งออก และผลการต่อรองจนได้ราคาสุดท้ายว่าเหมาะสมที่จะขายให้หรือไม่

นางพรทิวา กล่าวว่า คณะกรรมการระบายข้าวสต็อกรัฐบาล เป็นผู้กำหนดรายละเอียด การระบายข้าว โดยมี กขช.ให้ความเห็นชอบกรอบกว้างๆ เท่านั้น และยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีแผนระบายข้าว 2 ล้านตัน โดยจะระบายเพียง 5 แสนตันครั้งนี้ให้เสร็จสิ้น

เธอกล่าวต่อว่า หากขายไม่ได้ตามเกณฑ์ราคาที่กำหนดไว้ คือ การพิจารณาราคาตลาด ค่าใช้จ่ายการเก็บรักษาเฉลี่ยเดือนละ 2 พันล้านบาท สำหรับข้าว 5 ล้านตัน และปัจจัยอื่นๆ ก็พร้อมยกเลิกทันที

"ยืนยันว่า ตอนนี้ระบาย 5 แสนตันก่อน ที่เข้าใจกันไปว่าระบาย 2 ล้านตัน ตอนนี้ยังไม่มีแผน ซึ่งการระบายข้าวล็อตนี้ ยอมรับว่าต้องดูราคาอีกที ถ้าราคาไม่ได้ตามที่เหมาะสมก็ไม่ขาย ท่านรองนายกฯ ไตรรงค์ ไม่ได้บอกว่าไม่ให้ขาย แต่อยากให้หารือ กขช.ว่าได้ราคาดีหรือไม่มากกว่า" นางพรทิวา กล่าว

กระทรวงพาณิชย์ มีหน้าที่ดูแลระบบการค้าข้าวให้ทั้งผู้ส่งออกและโรงสีข้าวสามารถอยู่ได้ ขณะเดียวกันเกษตรกร ต้องมีรายได้คุ้มค่า ซึ่งการกำหนดแผนระบายข้าวครั้งนี้ พิจารณาแล้วเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมและคำนึงถึงประโยชน์ทุกฝ่าย

นางพรทิวา กล่าวว่า การประชุม ครม.วันนี้ (23 ก.พ.) กระทรวงพาณิชย์ เสนอแผนเปิดจุดโรงสีเพื่อตั้งโต๊ะรับซื้อข้าวในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ อยุธยา สุโขทัย และพิษณุโลก เพื่อแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ เบื้องต้นคาดน่าจะมาจากข้าวมีความชื้นมากกว่า 30%

นายสมพงษ์ กิตติเรียงลาภ ประธานกรรมการบริษัท พงษ์ลาภ จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ยื่นเสนอซื้อข้าวในการประมูลครั้งนี้จำนวนหนึ่ง เพราะต้องการรักษาบทบาทการร่วมซื้อข้าวจากรัฐไว้ แม้จะไม่มีความมั่นใจการระบายข้าวครั้งนี้ว่าจะหาข้อสรุปและส่งมอบสินค้าได้ตามแผนก็ตาม

แหล่งข่าวจากผู้ส่งออกข้าว กล่าวว่า การเสนอราคาซื้อข้าวครั้งนี้ราคาน่าจะเฉลี่ยที่ตันละ 1.5 หมื่นบาทตามราคาตลาด ซึ่งถือว่าเหมาะสม สาเหตุที่มีความพยายามให้ยกเลิกการประมูล น่าจะมาจากกลุ่มโรงสีที่คาดข้าวปีนี้ราคาจะสูงจึงกักตุนข้าวไว้ เมื่อรัฐระบายข้าวออกมา ทำให้ผู้ส่งออกไม่จำเป็นต้องซื้อข้าวจากโรงสีจนเกิดปัญหาขาดทุนตามมา

"ความขัดแย้งระหว่างผู้ส่งออกและโรงสี นักการเมืองที่มีส่วนได้เสียกับการระบายข้าวแต่ละครั้ง สร้างความเสียหายให้กับประเทศ ก่อนหน้านี้มีการระบายข้าวและสรุปราคาขายที่ตันละ 1.6 หมื่นบาทแต่ไม่มีการขาย ขณะที่การระบายครั้งนี้ ไม่เข้าใจว่ายื่นซองกับเปิดซองคนละวันกันซึ่งผิดปกติ"

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า การยื่นซองเสนอราคาประมูลข้าวสต็อกรัฐบาลวานนี้ (22 ก.พ.) มีผู้ส่งออกสนใจยื่นซอง 11 ราย แต่ลงทะเบียน 15 ราย ทั้งนี้มีผู้ส่งออกรายใหญ่หลายราย ได้แก่ บริษัท เอเชียโกลเด้นท์ไรท์ จำกัด บริษัท พงษ์ลาภ จำกัด บริษัท นครหลวงค้าข้าว จำกัด และ บริษัท ซีพี อินเตอร์เทรด จำกัด เข้าร่วมเสนอราคาด้วย

หากเปรียบเทียบการเปิดจำหน่ายข้าวรัฐครั้งก่อน พบว่าครั้งนี้มีจำนวนผู้ให้ความสนใจน้อยกว่ามาก โดยครั้งก่อนหน้านี้มีผู้สนใจยื่นซอง 22 ราย ทั้งที่ปริมาณระบายข้าวเพียง 3.7 แสนตัน

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยประเมินว่า สาเหตุที่ข้าวราคาตกต่ำช่วงนี้ เกิดจากรัฐบาลบริหารจัดการเรื่องสต็อกข้าวไม่ถูกต้อง นโยบายของรัฐบาลในเรื่องประกันรายได้ ไม่มีหลักเกณฑ์ที่รัดกุม รัฐบาลควรเร่งเข้ามาดูแลและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็ว

์ที่มา กรุงเทพธุรกิจ