www.thairiceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

"อภิสิทธิ์"สั่งสอบข่าวทุบราคาข้าว


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.วานนี้ (23 ก.พ.) มีมติให้กระทรวงพาณิชย์ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่มีข่าวว่ารัฐบาลจะมีการระบายข้าวสารในสต็อกของรัฐ 2 ล้านตัน เพราะข่าวดังกล่าวได้สร้างความสับสนให้ตลาดเป็นอย่างมาก ทำให้ราคาข้าวในตลาดมีความผันผวน และสร้างความเสียหาย

ส่วนการเปิดประมูลข้าว 5 แสนตันของกระทรวงพาณิชย์ เป็นกระบวนการตามปกติ ที่กระทรวงพาณิชย์สามารถดำเนินการได้ แต่จะมีการระบายหรือไม่ ต้องมีการพิจารณากันอีกครั้ง ว่า ราคาที่จะระบายนั้นเป็นอย่างไร หากได้ราคาไม่เหมาะสม ก็สามารถยกเลิกได้

"ขณะนี้ มีความสับสน หลังมีข่าวว่ารัฐบาลจะเร่งระบายข้าวมากถึง 2 ล้านตัน ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และข่าวดังกล่าวส่งผลกระทบทำให้เกิดความผันผวนเรื่องราคาข้าวในตลาด ครม.จึงมีมติให้กระทรวงพาณิชย์ ไปดำเนินการสอบ ว่า ข่าวและข้อมูลดังกล่าวออกมาจากไหน อย่างไร เพราะสร้างความเสียหาย และเราไม่ต้องการให้เกิดปัญหาในลักษณะนี้อีก" นายอภิสิทธิ์กล่าว

นายกฯ ยันรัฐไร้แรงกดดันขายข้าว

ส่วนข่าวลือที่ว่ารัฐบาลจะเร่งระบายข้าว 2 ล้านตัน ซึ่งทำให้ราคาข้าวสารในตลาดลดลงจาก 1.7 หมื่นบาทต่อตัน เหลือ 1.45 หมื่นบาทต่อตันนั้น รัฐบาลจะใช้ราคาดังกล่าวเป็นราคาตลาดหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า การระบายข้าวจะต้องพิจารณาจากราคาตลาดและปัจจัยอื่นๆ ทำให้ไม่สามารถบอกได้ล่วงหน้าได้ว่าจะระบายข้าวในราคาเท่าใด และรัฐบาลไม่ได้กำหนดว่า ข้าวที่จะระบายในล็อตนี้ที่มีจำนวน 5 แสนตัน จะต้องไม่ต่ำกว่า 1.62 หมื่นบาทต่อตัน ซึ่งเป็นราคาที่เอกชนเสนอในการประมูลข้าวครั้งที่แล้ว 3.75 แสนตัน แต่ยืนยันว่า การระบายข้าว 5 แสนตัน เป็นปริมาณที่รับได้ ขณะที่การเปลี่ยนจากรับจำนำข้าวเป็นโครงการประกันราคา ทำให้รัฐบาลไม่มีแรงกดดันที่ต้องระบายข้าวในสต็อกออกไป

"การเปลี่ยนจากโครงการรับจำนำ มาเป็นโครงการประกันราคา ทำให้การเอาข้าวเข้ามาอยู่ในสต็อกของรัฐบาลหยุดมาระยะหนึ่ง เพราะฉะนั้น แรงกดดันต่างๆ ที่ทำให้เราต้องระบายข้าวไม่เหมือนเดิมแล้ว เราจึงสามารถบริหารให้เหมาะสมได้ หลักสำคัญ คือ เราไม่ต้องการให้ทุกครั้งที่มีการระบายข้าวมีปัญหากับราคาตลาด แต่ก็คำนึงถึงการเก็บค่าเสื่อมและค่าดูแลเช่นกัน และยอมรับว่าข้าวที่อยู่ในสต็อกของรัฐ มีต้นทุนสูงผิดปกติอยู่แล้ว แต่จะเทียบเคียงกับต้นทุนทั้งราคาตลาด ภาวะตลาด ก่อนตัดสินใจขายในราคาเหมาะสม ส่วนปริมาณระบาย 5 แสนตัน เป็นปริมาณที่เหมาะสมและตลาดรับได้" นายอภิสิทธิ์ระบุ

ไฟเขียวตั้งโต๊ะซื้อข้าวดึงราคา

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ครม.มีมติให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการมาตรการแทรกแซงราคาข้าว หรือการตั้งโต๊ะรับซื้อข้าว เพราะขณะนี้ ราคาซื้อขายข้าวจริงในหลายพื้นที่ ถูกกดราคาให้ต่ำกว่าราคาอ้างอิง ขณะที่มีโรงสีที่เข้าโครงการอยู่แล้ว และโครงการนี้ก็จะเดินหน้าต่อไป เพื่อเป็นหลักประกันว่าเกษตรกรจะขายข้าวได้ตามราคาอ้างอิงที่ประกาศไป
ครม.มีมติมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ เข้าตั้งโต๊ะรับซื้อข้าวใน 3 จังหวัด ได้แก่ อยุธยา สุโขทัย และพิษณุโลก โดยมีโรงสีเข้าร่วมโครงการกว่า 300 แห่ง และ ครม.ได้มีมติอนุมัติงบในการดำเนินการไปแล้วจำนวน 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งการตั้งโต๊ะรับซื้อข้าวในช่วงก่อนหน้านี้ มีการใช้เงินเพียง 7 ล้านบาทเท่านั้น

ไตรรงค์ชี้ "วิจักร" ต้นตอข่าวขาย 2 ล้านตัน

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า นายกฯ ได้สั่งการใน ครม.ให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน กรณีที่มีข่าวออกไปว่ารัฐบาลจะเร่งระบายข้าวในสต็อก 2 ล้านตันว่าใครเป็นผู้ให้ข่าว และยืนยันว่า จะเอาจริงเอาจังในเรื่องนี้ โดยจะหาตัวผู้กระทำผิดให้ได้ เพราะข่าวดังกล่าวได้สร้างความผันผวนให้ราคาข้าวในตลาดโลก และทำให้ข้าวในประเทศราคาตกต่ำ

ในที่ประชุม ครม.นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกฯ ระบุว่า มีการระบุชื่อบุคคลที่ให้ข่าวว่ารัฐบาลไทยจะระบายข้าว 2 ล้านตัน กับสำนักข่าวต่างประเทศแห่งหนึ่ง คือ นายวิจักร วิเศษน้อย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ขณะที่นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่ากระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ยังไม่ทราบเรื่อง ขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน

ที่ประชุม ครม.ยังมีการตั้งข้อสังเกต กรณีการตั้งโต๊ะรับซื้อข้าวเปลือกของเกษตรกร ซึ่งมีรัฐมนตรีบางคนซักถามในที่ประชุม ครม.ว่าข้าวเปลือกที่ออกมาในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมานั้น เป็นข้าวที่มีอายุสั้น หรือมีอายุไม่เกิน 100 วันหรือไม่ และหากเป็นข้าวที่มีอายุสั้น และเกษตรกรรายนั้นๆ ไม่ได้ขึ้นทะเบียนจะมีสิทธิเข้าร่วมโครงการตั้งโต๊ะรับซื้อข้าว

วิจักรโต้ "บลูมเบิร์ก" ข่าวคลาดเคลื่อน

นายวิจักร วิเศษน้อย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า กรณีที่คณะรัฐมนตรี มีคำสั่งให้กระทรวงพาณิชย์ ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ที่ตนให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลจะเปิดประมูลข้าวในสต็อก 2 ล้านตัน ตามที่ปรากฏข่าวของสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อเร็วๆ นี้ ตนไม่เคยให้สัมภาษณ์ เป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เพราะในการแถลงข่าวสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่มีผู้สื่อข่าวจากสำนักนี้มาร่วมทำข่าวด้วย และตนระบุแค่จำนวน 500,000 ตัน ที่รัฐจะเปิดประมูลเท่านั้น หากมีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงขึ้น ก็พร้อมจะให้ข้อมูล อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวดังกล่าวให้โทรศัพท์มาขอโทษกรณีดังกล่าวแล้ว

"พอรัฐบาลบอกจะเปิดประมูลข้าว ก็มีการออกข่าวข้าวเป็นรายวัน ซึ่งกดดันราคามาก ทำให้ราคาตกต่ำ ขอวิงวอนว่าอย่าเล่นข่าวแบบนี้เลย ถ้าเห็นแก่ประโยชน์ของบ้านเมือง และพี่น้องเกษตรกร หากรัฐบาลขายไม่ได้ ก็จะต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บอีกปีละ 2,000 ล้านบาท รวมค่าดอกเบี้ยด้วยจะสูงถึงกว่า 5,000 ล้านบาท ใครจะรับผิดชอบ" นายวิจักรกล่าว

"พาณิชย์" เปิดซองข้าวชี้ราคาต่ำกว่าตลาด

นายวิจักร กล่าวว่า หลังเปิดให้เอกชนยื่นซองเสนอราคาข้าวสต็อกรัฐ 5 แสนตัน วานนี้ (23 ก.พ.) ว่า วันนี้ (24 ก.พ.) คณะทำงานดำเนินการระบายข้าวสาร ที่มีตนเป็นประธาน จะเรียกผู้ส่งออกที่เสนอราคาผ่านเกณฑ์มาต่อรองราคา ซึ่งน่าจะได้ราคาเพิ่มสูงขึ้น จากราคาที่เสนอซื้อ หลังจากนั้น 2-3 วัน จะสรุปผลเสนอให้นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ พิจารณา ก่อนเสนอต่อคณะกรรมการ นโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ

"ตอนนี้ ยังพูดไม่ได้ว่า ราคาที่เสนอมาเป็นอย่างไร เพราะการเสนอราคา ผู้ส่งออกอาจกังวล เรื่องการค้ำประกันซอง 2% ของมูลค่าข้าวที่เสนอซื้อ เลยเสนอราคาไม่สูงมาก แต่เชื่อว่าจะต่อรองเพิ่มขึ้นได้อีก ส่วนจะขายหรือไม่ขึ้นอยู่ที่ กขช. และ ครม.จะพิจารณา" นายวิจักรกล่าว
ซื้อข้าวปทุม 1.8 หมื่น จากตลาด 2.4 หมื่น

การเปิดซองเสนอราคาซื้อข้าวในสต็อกรัฐบาล 500,000 ตัน มีผู้ส่งออกจำนวน 11 ราย ในส่วนการประมูลซื้อข้าวหอมปทุม นาปรัง ปีการผลิต 2551 เพื่อการส่งออกต่างประเทศ มีผู้ยื่นซองเสนอราคา 4 ราย เสนอราคาเฉลี่ยตันละ 15,500-18,200 บาท จากราคาตลาดปัจจุบันตันละ 23,000-24,000 บาท โดยผู้ที่เสนอราคาสูงสุด ได้แก่ บริษัท เอเชียโกลเด้นไรซ์ จำกัด เสนอราคา 18,200 บาทต่อตัน บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด เสนอ 18,060 บาทต่อตัน รวมปริมาณข้าวปทุมธานี นาปรัง 2551 ที่มีการยื่นซองเสนอซื้อมีจำนวน 82,113.406 ตัน มูลค่า 1,452.66 ล้านบาท

ราคาเสนอซื้อข้าวหอมปทุมธานี นาปี ฤดูกาลผลิต 2551/2552 มีบริษัทร่วมประมูล 4 ราย เสนอซื้อตันละ 17,000-18,500 บาท โดยมีผู้ยื่นซองเสนอราคาสูงสุด ได้แก่ บริษัท โรงเอกไรซ์ จำกัด เสนอราคา 18,500 บาทต่อตัน บริษัท เจียเม้ง จำกัด เสนอราคา 17,430-18,090 บาทต่อตัน บริษัท แคปปิตัลซีเรียลส์ จำกัด เสนอราคา 17,000 บาทต่อตัน บริษัท พงษ์ลาภ จำกัด เสนอราคา 17,000 บาทต่อตัน รวมปริมาณการเสนอซื้อข้าวปทุมธานี นาปี ฤดูกาลผลิต 2551/2552 จำนวน 73,961 ตัน มูลค่า 1,276 ล้านบาท

ตั้งซื้อข้าวขาว 1.5 หมื่น ราคาตลาด 1.7 หมื่น

การเสนอซื้อข้าวขาว 5% นาปรัง ปีการผลิต 2551 เสนอซื้อตันละ 11,665-14,950 บาท จากราคาตลาดตันละ 16,800-16,900 บาท มีบริษัทยื่นซองเสนอราคารวม 8 ราย โดยบริษัทที่ยื่นซองเสนอราคาสูงสุด ได้แก่ บริษัท ไทยฟ้า (2511) จำกัด เสนอราคาซื้อที่ 14,950 บาทต่อตัน บริษัท ไชยพรไรซ์ แอนด์ฟู๊ดโปรดักส์ จำกัด เสนอราคา 14,700-14,900 บาทต่อตัน ปริมาณ 149,709 ตัน รวมมูลค่า 2,206 ล้านบาท บริษัท แคปปิตัลซีเรียลส์ จำกัด เสนอราคา 14,750-14,900 บาทต่อตัน โดยรวมปริมาณที่มีการยื่นซองเสนอซื้อทั้งหมด 373,938 ตัน มูลค่ารวม 5,423.36 ล้านบาท

ส่วนการเสนอซื้อข้าวขาว 5% ปีการผลิต 2551/2552 เสนอซื้อตันละ 13,850-15,550 บาท มีบริษัทยื่นซองประมูล 6 ราย โดยมีบริษัทที่ยื่นซองเสนอราคาสูงสุด ได้แก่ บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด เสนอราคา 15,480-15,550 บาทต่อตัน ปริมาณ 43,602 ตัน รวมมูลค่า 676 ล้านบาท บริษัท เจียเม้ง จำกัด เสนอราคา 15,000-15,200 บาทต่อตัน ปริมาณ 55,947 ตัน รวมมูลค่า 843 ล้านบาท และบริษัท แคปปิตัลซีเรียลส์ จำกัด เสนอราคา 15,000-15,100 บาทต่อตัน ปริมาณ 96,047 ตัน รวมมูลค่า 1,442 ล้านบาท โดยรวมปริมาณที่มีการยื่นซองเสนอซื้อทั้งหมด 285,516 ตัน มูลค่ารวม 4,297 ล้านบาท

ผู้ส่งออกเชื่อรัฐล้มประมูลอีกรอบ

ผู้ส่งออกที่เข้าร่วมประมูลรายหนึ่ง ระบุว่า ราคาที่เสนอซื้อถือว่าเป็นราคาที่สูงแล้ว เพราะผู้ส่งออกต้องเสียค่าปรับสภาพ และค่าขนส่งอีก อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ อ้างว่า ราคาที่ผู้ส่งออกเสนอซื้อต่ำกว่าราคาตลาดมาก แม้คณะทำงานเจรจาต่อรอง จะสามารถต่อรองให้เพิ่มราคาซื้อได้อีก แต่ไม่น่าจะเกินตันละ 500 บาท จึงเป็นไปได้ว่า การประมูลครั้งนี้น่าจะล้มอีกครั้ง หรือหากจะขายจริง ก็คงให้ผู้ส่งออกที่เสนอซื้อราคาสูงๆ ในปริมาณน้อยเพียงไม่กี่ราย

นายชาญชัย รักษ์ธนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า การเสนอราคาประมูลครั้งนี้ ราคาต่ำกว่าครั้งที่ผ่านมา แต่จะมีการอนุมัติขายหรือไม่ขึ้นกับวิจารณญาณของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม มีความเป็นห่วงกรณีการออกมาปล่อยข่าว ว่า รัฐบาลจะระบายข้าว 2 ล้านตัน ทำให้ราคาข้าวลดลงติดพื้น ส่งผลไปถึงราคาข้าวในต่างประเทศ อาทิเช่น ปากีสถานที่ต้องปรับลดราคาลงมา ซึ่งไทยในฐานะผู้ส่งออกอันดับหนึ่งของโลก ต้องระมัดระวังการให้ข่าวลักษณะดังกล่าว เพราะส่งผลสร้างความปั่นป่วนให้ประเทศชาติ และเห็นด้วยว่าควรเอาผิดกับผู้ที่เป็นต้นตอปล่อยข่าวนี้จริงๆ

์ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@thairiceexporters.or.th


Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.