www.thairiceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

ชง'กขช.'เลือกราคาตลาดอ้างอิงข้าว


นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการกำหนดเกณฑ์ราคากลางอ้างอิงโครงการการประกันรายได้เกษตรข้าวเปลือก วานนี้ (23 เม.ย.) ว่ากระทรวงพาณิชย์เสนอให้คณะกรรมการข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่จะประชุมในวันที่ 26 เม.ย. นี้ โดยมีนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ให้ กขช.เลือกการใช้ราคาตลาดที่มีการซื้อขายกันจริงในปัจจุบัน มาเป็นราคาอ้างอิงแทน หรือจะให้คงใช้ราคาอ้างอิงที่กำหนดจากราคาพื้นฐาน (Floor Price) ต่อไป

ทั้งนี้ ชาวนาได้ร้องเรียนก่อนหน้านี้ว่า การใช้ราคาอ้างอิงที่รัฐประกาศทุก 7 วัน ทำให้ชาวนาได้ค่าชดเชยจากโครงการประกันรายได้ ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น เพราะราคาตลาดที่มีการซื้อขายจริงต่ำกว่าราคาอ้างอิง ดังนั้นหากรัฐหันมาใช้ราคาตลาดเป็นเกณฑ์ ในการจ่ายเงินชดเชยให้ชาวนา จะช่วยลดความเดือดร้อนให้ชาวนาได้

นายยรรยง กล่าวว่า สำหรับราคาพื้นฐานในการคำนวณราคาข้าวในอดีตย้อนหลัง 3 ปี ราคาปัจจุบันเฉลี่ยทุก 7 วัน และราคาในอนาคตที่นำมาจากตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า (afet) โดยราคาพื้นฐาน ณ วันที่ 20 เม.ย.ล่าสุดข้าวเปลือกเจ้า 5% ความชื้น 15% ตันละ 8,918 บาท ทำให้ราคาอ้างอิง อยู่ที่ตันละ 9,142 บาท ชดเชยตันละ 858 บาท แต่ราคาที่ซื้อขายจริงในตลาดเฉลี่ยตันละ 7,000-7,500 บาท

“ต้องให้ กขช. เลือกว่าจะใช้ราคาอะไรเป็นเกณฑ์ชดเชย เพราะถ้าใช้ราคาอ้างอิงเดิม ชาวนาก็ได้ชดเชยน้อย แค่ตันละไม่ถึงพันบาท แต่ถ้าใช้ราคาตลาดก็ต้องชดเชยตันละ 2.8 พันบาท" นายยรรยง กล่าว

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์เตรียมเสนอแผนดึงราคาข้าว ผ่านการตั้งโต๊ะรับซื้อข้าวจากชาวนาโดยตรง ในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากและภาวะตลาดต่างประเทศมีความต้องการซื้อน้อย ให้ที่ประชุม กขช.พิจารณาด้วย โดยวันที่ 25 เม.ย. นี้ นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเชิญผู้ส่งออกข้าว โรงสี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการประกันรายได้ เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาประชุมเพื่อหารือแนวทางปฏิบัติการตั้งโต๊ะรับซื้อข้าวโดยตรงจากชาวนาในราคานำตลาด หรือ ราคาFloor Price และการปรับสูตรคำนวณราคาอ้างอิงข้าวให้สอดคล้องกับภาวะตลาดที่แท้จริง

เบื้องต้นกระทรวงพาณิชย์ กำหนดให้โรงสีเป็นหน่วยงานซื้อข้าวจากชาวนา แต่จะให้โรงสีเป็นผู้รับซื้อโดยตรง หรือให้เพียงเป็นตัวแทนของรัฐ จะต้องหารืออีกครั้ง โดยโรงสีที่ร่วมโครงการจะได้รับแรงจูงใจ คือ การได้ค่าสีแปรจากรัฐในอัตราใหม่คือตันละ 75 บาท ซึ่งจะทำให้โรงสีมีงานทำและการสีแปรเป็นข้าวสารจะทำให้มีพื้นที่เก็บรักษาข้าวได้เพิ่มขึ้น มากกว่าการเก็บในรูปข้าวเปลือก

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พบว่าโรงสีส่วนใหญ่มีข้าวในสต็อกของตัวเองจำนวนมาก อาจไม่ต้องการร่วมโครงการ จึงกำหนดแนวทางนำข้าวใหม่มาแลกข้าวเก่าจากสต็อกรัฐบาล รัฐได้ข้าวใหม่มาเก็บไว้ โดยไม่ได้เป็นการเพิ่มปริมาณ สต็อกที่มีอยู่ปัจจุบัน

นายยรรยง กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ประเมินปริมาณผลผลิตนาปรังขณะนี้ จะออกสู่ตลาด 1.8 ล้านตันข้าวเปลือก หรือ 1 ล้านตันข้าวสาร และตามแผนดึงราคาข้าวให้สูงขึ้น เชื่อว่ารัฐจะต้องซื้อข้าวจากตลาดประมาณ 5 แสนตันข้าวสาร ทั้งนี้ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายใน ประสานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อนำข้อมูลปริมาณผลผลิต ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ใดบ้าง เพื่อจะได้ประสานกับโรงสีในการเปิดจุดรับซื้อที่เหมาะสม

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@thairiceexporters.or.th


Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.