www.thairiceexporters.or.th  
home about us members contact us FAQ link site map English Thai

"ไตรรงค์"เล็งขายข้าว 3 ล้านตัน ส่งออกผวาเวียดนามดั๊มพ์ราคา


นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 24-27 ก.ค. นี้ ตนจะเป็นผู้นำคณะผู้แทนของกระทรวงพาณิชย์เพื่อเดินทางไปเจรจาการขายข้าวให้แก่ประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย เพื่อเร่งระบายสินค้าข้าวในสต็อกของรัฐบาลที่มีอยู่ในประเทศกว่า 5 ล้านตัน ส่วนจะเจรจาขายได้เป็นจำนวนเท่าใดหรือในราคาเท่าใดคงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

ทั้งนี้ รัฐบาลตั้งเป้าหมายว่าจะระบายข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาลให้ได้ 50% หรือประมาณ 2.5 ล้านตัน ภายในสิ้นปี 2553 ส่วนที่เหลือจะเก็บไว้ในประเทศเพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนภายใน

“ผมคิดว่ามันถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลจะต้องระบายข้าวในสต็อกที่มีอยู่ในขณะนี้ออกไป เพราะยิ่งปล่อยให้นานไปข้าวที่เก็บไว้อาจจะมีปัญหาเรื่องคุณภาพได้ ส่วนจำนวนที่ระบาย ยังมากก็คงไม่เกิน 2.5- 3 ล้านตัน เพราะเราจำเป็นที่จะต้องเก็บข้าวไว้ส่วนหนึ่ง ไว้ในประเทศเพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลน" นายไตรรงค์ กล่าว

สำหรับการระบายข้าว ก็จะใช้วิธีการทยอยตามนโยบายของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ไม่ใช่ระบายครั้งเดียว เพราะจะส่งผลกระทบต่อตลาดทันที ส่วนจะระบายเท่าใดในราคาเท่าใดคงไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะถือว่าเป็นความลับทางการค้า

นายสุทัศน์ เศรษฐบุญสร้าง ผู้แทนการค้าไทย (ทีทีอาร์) กล่าวว่า ก่อนหน้านี้รัฐบาลมาเลเซียได้ขอส่วนลดในการขอซื้อข้าวจากไทย ขณะเดียวกันยังมีปัญหาในเรื่องของพ่อค้ามาเลเซีย ที่นำข้าวหอมมะลิของไทยไปผสมกับข้าวพื้นเมืองของมาเลเซีย แล้วแจ้งกับผู้บริโภค ว่า เป็นข้าวหอมมะลิ มาจากประเทศไทย ทำให้บรรดาผู้บริโภคของมาเลเซียเกิดความเข้าใจผิด และส่งผลเสียหายต่อชื่อเสียงข้าวหอมมะลิของไทยมาก ซึ่งต้องรีบแก้ไขโดยชี้แจงรายละเอียดและข้อเท็จจริงทั้งหมดให้เป็นที่เข้าใจโดยเร็วด้วย

ชี้พาณิชย์ปล่อยข้าวทุบข้าวเหนียว

นายนิพนธ์ วงษ์ตระหง่าน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้มีการปล่อยข่าวทุบราคาข้าวกันมาก โดยระบุว่า รัฐจะระบายข้าวเหนียว ส่งผลให้พ่อค้ากดราคารับซื้อข้าวเหนียวในตลาดลงทันที 500 บาทต่อเกวียนในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อเกษตรกร

"ขั้นตอนของการระบายข้าวแม้เป็นอำนาจของกระทรวงพาณิชย์ แต่ต้องเสนอให้รองนายกฯไตรรงค์ให้ความเห็นชอบก่อน ซึ่งผมจะเป็นคณะทำงานกลั่นกรองให้รองนายกฯไตรรงค์ ขณะนี้ไม่มีเรื่องการระบายที่เสนอมาจากกระทรวงพาณิชย์ แต่กลับไปปล่อยข่าวในทำนองว่าจะขายข้าวเหนียวกิโลกรัมละ 16 บาท ขณะที่ราคาตลาดสูงถึง 26 บาทต่อกก. เมื่อปล่อยข่าวเช่นนี้ออกมา พ่อค้าจับราคาขาลงทันที เกษตรกรก็เสียหาย" นายนิพนธ์ กล่าว

ทั้งนี้ ประเมินว่าราคาข้าวเหนียวจะยังเป็นราคาขาขึ้น เนื่องจากตลาดโลกต้องการในปริมาณมาก เช่น จีนจะซื้อไปเพื่อทำขนมไหว้พระจันทร์ ขณะที่ประเทศตะวันออกกลางก็ต้องการซื้อไปบริโภค โดยเฉพาะในช่วงถือศีลอด ซึ่งการรับประทานข้าวเหนียว จะช่วยประทังความหิวได้ดีกว่าข้าวขาวหรือข้าวเจ้า

เล็งตกลงค้าข้าวกับเวียดนาม

ส่วนสถานการณ์การระบายข้าวในสต็อกของรัฐบาลนั้น ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากหมดสิ้นหน้าทำนาปรังและข้าวนาปีกำลังเริ่มต้นเพาะปลูก การระบายข้าวจึงไม่ส่งผลกระทบกับราคาในตลาด

"การระบายช่วงนี้เหมาะสม แต่ไม่ควรขายราคาต่ำเพราะยังมีดีมานด์ในตลาดอยู่มาก โดยเฉพาะข้าวเหนียว ข้าวหอมปทุมธานี แต่ในส่วนข้าวขาวอาจตกลงกับเวียดนามในการทยอยขายหรือแชร์ตลาดกันได้ เพื่อไม่ให้ราคาตกต่ำมาก หรืออาจใช้วิธีผลัดเปลี่ยนกันขาย ซึ่งเชื่อว่าสามารถเจรจากันได้ โดยผมจะไปหารือกับเวียดนามเพื่อทำความตกลงกันในเร็วๆ นี้" นายนิพนธ์ กล่าว

ผู้ส่งออกซัดไม่เหมาะสมขายข้าว

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ในปีนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาระบายข้าวที่เหมาะสม โดยเฉพาะข้าวขาว ซึ่งการเปิดเผยว่าจะระบายข้าวปริมาณ 2.5 ล้านตัน ตั้งแต่ช่วงนี้จนถึงสิ้นปี จะยิ่งทำให้คู่แข่งอย่างเวียดนาม ดั๊มพ์ราคาข้าวลงไปอีก เนื่องจากตลาดยังซบเซาทำให้ต้องแย่งกันทำตลาดและราคาขายของเวียดนาม จะส่งผลต่อราคาข้าวของไทยให้ลดต่ำลงตาม

ปัจจุบันเวียดนาม ขายข้าวขาว 5% เฉลี่ยตันละ 325-330 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ไทยเฉลี่ยที่ตันละ 440 ดอลลาร์สหรัฐ หากแผนระบายรัฐเป็นไปตามที่ประกาศจริงจะยิ่งทำให้ราคาตลาดลดลงตาม

"ช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมจริงๆ โดยเฉพาะข้าวขาวที่แทบไม่ต้องพูดถึง แต่ถ้าจะระบายจริงๆ ข้าวที่มีราคาแพงอย่างข้าวเหนียวและข้าวหอมปทุมธานี ยังมีโอกาสนำออกระบายและได้ราคาดี" นายชูเกียรติ กล่าว

ทั้งนี้ การระบายข้าวในขณะนี้ นอกจากจะทำให้ราคาตลาดได้รับผลกระทบแล้ว ยังมีเรื่องของการขาดทุน จากการระบายข้าว โดยราคาที่จำหน่ายหากขายได้โดยไม่หักค่าเสื่อมอ้างอิงราคาตลาดน่าจะอยู่ที่ 1.2 หมื่นบาทต่อตัน แต่ราคาที่รัฐรับจำนำและแปรสภาพ อยู่ที่ 2.2 หมื่นบาทต่อตัน

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ

 


©
Thai Rice Exporters Association

37 Soi Ngamduplee , Rama 4 Road , Toongmahamek , Sathorn District , Bangkok 10120 ,
Tel. 0-2287-2674-7 , 0-2287-2663-4 , Fax : 0-2287-2678

E-mail :
contact@thairiceexporters.or.th


Copyright © 2009 All rights reserved by Thai Rice Exporters Association.