นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่าในการหารือร่วมกับนายแดเนียล ควาซี อะโบดักพี เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐกานาประจำประเทศไทยถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ได้พูดถึงประเด็นสำคัญที่ประเทศกานาหยิบยกขึ้นมาคือความร่วมมือทางวิชาการระหว่างสองประเทศทั้งด้านพืช การปศุสัตว์ และการประมง โดยเฉพาะ อย่างยิ่งการเพิ่มประสิทธิภาพในการเพาะปลูกข้าว การเพาะเห็ด และไม้ตัดดอก ซึ่งไทยมีความเชี่ยวชาญในเรื่องดังกล่าว จึงมีความยินดีที่จะจัดโปรแกรมการอบรมหรือศึกษาดูงานในสาขาที่กานาให้ความสนใจ เพื่อเป็นการสร้างความต่อเนื่องในการพัฒนาความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างสองประเทศ เนื่องจากเมื่อปี 2552 ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ โดยสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (สพร.) ได้จัดสรรทุนฝึกอบรมให้แก่บุคลากรของกานาในสาขาต่างๆ อาทิ ด้านอาหารปลอดภัย คุณภาพผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมอาหารเกษตร นอกจากนั้น ความคล้ายคลึงกันในส่วนของลักษณะ ภูมิประเทศและภูมิอากาศของไทยและกานา จะมีส่วนช่วยให้การเรียนรู้จากกรณีศึกษาต่างๆ รวมถึงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เทคโนโลยีการผลิตระหว่างกันเป็นไปได้ด้วยดี สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในภาคสนามได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งกานาจะทำหนังสือคำขอความร่วมมือด้านต่างๆ ข้างต้นมายังกระทรวงการต่างประเทศอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนการขยายการลงทุนระหว่างไทยและกานานั้น ไทยมีความต้องการจะขยายตลาดการส่งออกข้าวไปยังกานาให้มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากในแต่ละปีกานามีความต้องการข้าวประมาณ 700,000 ตัน แต่ผลิตได้เพียง 150,000 ตัน ไม่เพียงพอต่อประชากรในประเทศ โดยข้าวไทยเป็นข้าวที่มีชื่อเสียงในกานาเป็นอย่างมาก ซึ่งกานาเป็นประเทศคู่ค้าข้าวอันดับ 6 ของไทยในทวีปแอฟริกา และยังเป็นศูนย์กลางการกระจายข้าวไทยไปประเทศอื่นๆ ใกล้เคียง เช่น มาลี บูร์กินาฟาโซ ฯลฯ ซึ่งนำข้าวไทยจากกานาไปจำหน่ายในประเทศของตน นอกจากนั้น ไทยยังพร้อมที่จะเป็นประตูกระจายสินค้าเกษตรของกานาสู่ประเทศอาเซียนอื่นๆ ด้วย
ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
|